แนะนำ 7 สมาร์ทวอทช์ยี่ห้อไหนดี เหมาะกับคนรักสุขภาพ
ในยุคที่เทคโนโลยีเฟื่องฟูอย่างในปัจจุบัน การใช้งานนาฬิกาของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะสมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) หรือนาฬิกาอัจฉริยะนี้ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ได้หยุดอยู่ที่การบอกเวลาเพียงอย่างเดียวเหมือนนาฬิกาแบบเดิม ๆ เท่านั้น ยังสามารถตั้งเวลาปลุก, จับเวลา, รับการแจ้งเตือน, รับโทรศัพท์, ควบคุมการเล่นเพลง, ดูวิดีโอ, ดูแผนที่, ติดตาม GPS หรือตรวจเช็กข้อมูลด้านสุขภาพระหว่างออกกำลังกายได้
สมาร์ทวอทช์ยี่ห้อไหนดี? อยากได้รุ่นที่ฟีเจอร์ครบ มีคุณภาพ รีวิวเยอะ ราคาดี ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย เพราะ AroundBKK จะมาแนะนำ 7 สมาร์ทวอทช์ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพและเหมาะกับการออกกำลังกายทุกประเภทมาฝากกัน
สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) คืออะไร
สมาร์ทวอทช์คือนาฬิกาที่มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้งาน เพื่อให้มีคุณสมบัติอื่น ๆ เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการบอกเวลาเพียงอย่างเดียวเหมือนนาฬิกาแบบเดิม ๆ โดยสมาร์ทวอทช์จะมีขนาดเท่านาฬิกาข้อมือทั่วไป แต่จะแสดงเวลาและข้อมูลต่าง ๆ ผ่านหน้าจอสัมผัส สามารถสั่งการและควบคุมได้อย่างอิสระ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านการใช้งานบลูทูธ (Bluetooth) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเช็กอัตราการเต้นของหัวใจ แคลอรี่ที่เผาผลาญ ระยะทาง จำนวนก้าว หรือข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูให้เสียเวลาในการออกกำลังกายเลย
ประโยชน์ของสมาร์ทวอทช์
สมาร์ทวอทช์อาจจะดูเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับคนรักสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วสมาร์ทวอทช์เหมาะกับทุกคน ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย, คนรักสุขภาพ, ผู้สูงอายุ, นักกีฬา, พนักงานออฟฟิศ, ผู้บริหาร, นักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปก็ตาม แล้วสมาร์ทวอทช์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง มาดูกันได้เลย
- ติดตามข้อมูลสุขภาพ : คุณภาพของการนอนหลับ, ระดับออกซิเจนในเลือด, อัตราการเต้นของหัวใจ, ความดันโลหิต ฯลฯ
- เช็กข้อมูลระหว่างออกกำลังกาย : ระยะทางในการวิ่ง, ระยะเวลาที่ออกกำลังกาย, จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ, จำนวนก้าวที่เดิน ฯลฯ
- ตั้งเป้าหมาย : คุณสามารถตั้งเป้าหมายของการออกกำลังกายในแต่ละครั้งและตั้งเวลาปลุกได้
- รับการแจ้งเตือน : รับการแจ้งเตือนของอีเมล ข้อความ สายเรียกเข้า และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถตอบกลับได้ทันที
- ควบคุมความบันเทิง : คุณสามารถควบคุมการเล่นเพลง วิดีโอ ใช้งานโซเชียลมีเดีย หรือติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ผ่านหน้าจอการแสดงผลของสมาร์ทวอทช์
- อื่น ๆ : โทรออก, พิมพ์ข้อความ, ชำระเงิน, ดู GPS ฯลฯ
7 สมาร์ทวอทช์ยี่ห้อไหนดี ฟีเจอร์ครบ ใช้งานคุ้ม
แนะนำสมาร์ทวอทช์ 7 ตัวตึงจากแบรนด์ดังชั้นนำ ที่มีฟีเจอร์ครบ ทั้งสุขภาพ ออกกำลังกาย และการใช้งานทั่วไป บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน!
1. Apple
Apple Watch Series 9 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์เทคโนโลยีเจ้าดัง Apple ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท มากับคอนเซ็ปต์ “ฉลาดขึ้น สว่างขึ้น ทรงพลังขึ้น” เพราะมีหน้าจอสว่างขึ้น 2 เท่า ดูหน้าจอได้อย่างสะดวกสบายแม้อยู่ในกลางแสงหรือที่ที่มีแสงน้อยอย่างโรงหนัง (กำหนดความสว่างได้ตั้งแต่ 1-2,000 นิต) และสามารถป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้ถึงขีดสุด
- มีโหมดสำหรับการออกกำลังกายให้เลือกหลากหลาย และทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร
- SiP รุ่น S9 รองรับคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง”
- แชร์ข้อมูลให้เพื่อน คนในครอบครัว และผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพได้
- ทำกิจกรรมผ่าน Apple Watch ได้เหมือนกับการใช้งาน iPhone
- ประมวลผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้เหมือนกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบจุดเดียว
- ตรวจสอบสุขภาพของร่างกาย อัตราการหายใจ ออกซิเจนในเลือก ประสิทธิภาพของการนอนหลับ และอื่น ๆ ได้อย่างแม่นยำ
- ให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินได้ทันที ไม่ว่าคุณจะล้ม ประสบเหตุรถชน หรือต้องการความช่วยเหลือในกรณีอื่น ๆ ก็ตาม
- ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 36 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน และสูงสุด 18 ชั่วโมงในโหมดปกติ
2. GARMIN
GARMIN Venu 3 สมาร์ทวอทช์ระบบ GPS สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ (ราคา 15,990 บาท) ทำหน้าที่เป็นเหมือนโค้ชดูแลด้านสุขภาพส่วนตัวสำหรับคุณ สามารถอยู่กับคุณได้ตลอดเวลานานถึง 14 วัน ติดตามได้ทุกความเคลื่อนไหว มีโหมดกีฬาให้เลือกมากกว่า 30 กิจกรรม และมีความพิเศษตรงที่มีโหมดการออกกำลังกายสำหรับผู้ใช้งานวีลแชร์โดยเฉพาะด้วย
- หน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED สว่างสดใสขนาด 1.4
- น้ำหนักเบา มาพร้อมกรอบสเตนเลสสตีล
- ใช้งานร่วมกันได้กับแอป GARMIN CONNECT™ บนสมาร์ตโฟน
- สามารถโทรและรับส่งข้อความได้ มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว
- วิเคราะห์และให้คำแนะนำเรื่องการนอนหลับได้อย่างละเอียด
- ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพเชิงลึกและติดตามพลังงานของร่างกายได้ตลอดทั้งวัน
- ชำระเงินแบบไร้การสัมผัสผ่าน GARMIN PAY และ RABBIT CARD
3. HUAWEI
HUAWEI Watch 3 Pro มาพร้อมกับดีไซน์วงกลมสุดคลาสสิก ราคา 21,990 บาท มีเทคโนโลยี eSIM3 รองรับการโทรออก เล่นเพลง หรือดาวน์โหลดแอปฯ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ แต่ยังคงทำงานด้วยเบอร์เดิม
- หน้าจอ AMOLED คมชัดขนาดใหญ่ 1.43 นิ้ว เปลี่ยนได้ถึง 30 รูปแบบ
- ใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างทั่วถึงไม่ต่างกับสมาร์ตโฟน
- ตรวจวัดและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายได้
- บันทึกการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด มีโหมดมืออาชีพถึง 19 โหมด
- Smart Power-Saving Algorithm 3.0 ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
- สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 21 วัน ใน Ultra-Long Battery Life Mode และสูงสุด 5 วัน ใน Smart Mode
4. Samsung
Samsung Galaxy Watch6 ราคาเริ่มต้น 8,990 บาท สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาให้บางลงและดูล้ำขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกปวดเมื่อยข้อมือ ตัวสายมีความยืดหยุ่นและนุ่มนวล ใส่นอนได้ไม่ระคายเคือง ตัวระบบสามารถประมวลผลได้เร็วขึ้น 18% ทำให้เปิดใช้งานแอปพลิเคชันและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล ไม่มีสะดุด
- กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับหน้าจอ มาตรฐาน IP68 และ 5ATM
- ชาร์จแบตเตอรี่ 30 นาที ได้พลังงานถึง 45% สามารถใช้งานได้นานติดต่อกัน 40 ชั่วโมง
- ติดตามพฤติกรรมการนอนหลับ วิเคราะห์ประสิทธิภาพ และให้คำแนะนำที่ถูกต้อง
- ติดตามรอบเดือนและคาดคะเนสุขภาพร่างกายได้อย่างเหมาะสม
5. Fitbit
Fitbit Sense 2 สมาร์ทวอทช์รุ่นท็อปจาก Fitbit ราคา 10,490 บาท มีโหมดออกกำลังกายให้เลือกกว่า 40 โหมด พร้อม GPS ในตัว สามารถใช้ในการหาตำแหน่งของสมาร์ตโฟนได้อย่างแม่นยำ มีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำได้ที่ระดับ 5ATM
- หน้าจอ OLED ขนาด 1.6 นิ้ว น้ำหนักของตัวเรือน 37.6 กรัม
- ตรวจประสิทธิภาพของการนอนหลับและติดตามการตอบสนองของร่างกายทั้งวัน
- วิเคราะห์ความพร้อมของร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง
- รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
- สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 6 วันต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
6. Amazfit
Amazfit Active Edge สมาร์ทวอทช์ที่รวมครบทุกฟังก์ชันที่คุณต้องการ ในราคาที่ใคร ๆ ก็เอื้อถึงได้ เพียง 4,690 บาท โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพอันเหนือชั้น ทนทานต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก เช่น สามารถกันน้ำได้ในระดับ 10ATM (ลงน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร) หรือแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 16 วัน สำหรับโหมดธรรมดา และใช้งานได้นาน 24 วัน สำหรับโหมดประหยัดพลังงาน
- หน้าจอ LCD ขนาด 1.32 นิ้ว (360 x 360 pixel) น้ำหนักตัวเรือน 34 กรัม
- เปลี่ยนหน้าจอได้มากกว่า 100 รูปแบบ
- ติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 130 โหมด
- มี GPS สำหรับติดตามตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม 5 ระบบ
- มีเซนเซอร์การตรวจวัดสุขภาพร่างกาย เช่น วัดอัตราการเต้นหัวใจ, วัดระดับออกซิเจนในเลือด หรือวัดระดับความเครียด เป็นต้น
7. Xiaomi
Xiaomi Watch 2 นาฬิกาสมาร์ทวอทช์จาก Xiaomi รุ่นใหม่ล่าสุด ราคา 7,490 บาท ใช้งานระบบปฏิบัติการ Google Wear OS เชื่อมต่อกับ Bluetooth และใช้งานได้ทันที พร้อมรองรับโหมดออกกำลังกายระดับมืออาชีพมากกว่า 160 โหมด รวมถึงโหมดสกีระดับมืออาชีพด้วย
- หน้าจอ AMOLED Retina 1.43 นิ้ว ดูรายละเอียดได้อย่างคมชัด
- หน่วยความจำ LPDDR4X และ eMMC จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ได้ (2G + 32G)
- แบตเตอรี่ความจุสูง 495mAh สามารถใช้งานได้นานสุด 65 ชั่วโมง (โหมดการใช้งานทั่วไป)
- มี Google Maps ในตัว มีประสิทธิภาพในการนำทางที่แม่นยำ
- มีคุณสมบัติในการกันน้ำ 5ATM หรือทนทานแรงดันที่เทียบเท่าความลึก 50 เมตร
- สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้ (ตั้งเวลาถ่ายภาพไทม์แลปส์ได้ 3 และ 5 วินาที)
บทสรุป
สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี ทั้งสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ตาม จากฟังก์ชันการใช้งานที่ครบจบในตัวเดียวอย่างที่ AroundBKK ได้กล่าวไปในบทความนี้ และเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อสมาร์ทวอทช์มาใช้งานดีไหม และควรซื้อสมาร์ทวอทช์ยี่ห้อไหนดี ถึงจะเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด