1. หน้าหลัก AroundBKK
  2. / บทความ
  3. / HEALTH & WELLNESS
  4. / 7 ราชาผลไม้แก้หวัด ลดน้ำมูก-ขับเสมหะ เสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรง!

7 ราชาผลไม้แก้หวัด ลดน้ำมูก-ขับเสมหะ เสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรง!

Published on กุมภาพันธ์ 14, 2023
SHARE

เพราะอากาศประเทศไทยเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน..ร้อนมาก..ร้อนที่สุด ฝนตกแล้วหนาวขึ้นมาทำเอาหลายคนถึงกับกุมขมับเนื่องจากเป็นหวัดคัดจมูกบ่อย แต่หายห่วงได้เลยวันนี้ผลไม้แก้หวัดชั้นเลิศรวมอยู่ในลิสต์ของเราแล้ว บอกเลยว่าหาซื้อหาทานง่าย บางคนอาจจะทานเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่ามีสรรพคุณทางยาอย่างไร ‘AROUNDBKK’ จะพามาไขคำตอบนั้นเอง~

เปิดตำรา 7 ผลไม้แก้หวัด วิตามินซีสูง บรรเทาอาการได้ด้วยวิธีธรรมชาติ

นอกจากการออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การเสริมภูมิคุ้มกันด้วยผลไม้แก้หวัดที่มีวิตามินซีสูงก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีต่อร่างกาย แถมสบายกระเป๋าอีกด้วยเพราะบ้านเรามีผลไม้หลากหลายในราคาที่เป็นมิตร ที่สำคัญรสชาติยังอร่อยมาก ทานเมื่อไหร่ก็เติมความสดชื่นได้ ดังนั้นอย่ารอช้า มาดูกันดีกว่าว่ามีผลไม้ชนิดใดบ้าง

1. ฝรั่ง

เมื่อนึกถึงผลไม้วิตามินซีสูงปรี๊ดอันดับ 1 ต้องยกให้ ‘ฝรั่ง’ หากเทียบกับส้มแล้วมีวิตามินซีสูงกว่าถึง 5 เท่าเลยทีเดียว หากทาน 165 กรัมจะได้รับวิตามินถึง 377 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินอีกหลายชนิด จึงช่วยสร้างภูมิต้านหวัดได้ แถมซ่อมแซมเนื้อเยื่อและหลอดเลือด กระตุ้นให้คอลลาเจนผลิตตามธรรมชาติและกำจัดเชื้อแบคทีเรีย แก้อักเสบได้อีกด้วย

ข้อแนะนำ: ควรทานผลสดที่ไม่สุกจัดเพราะจะได้รับวิตามินสูงกว่า อีกหนึ่งผลพลอยได้ของการทานฝรั่งคือสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวช่วยชะลอความเหี่ยวย่นชั้นดี

2. ฟักทอง

มาต่อกันที่ซุปเปอร์ฟรุตอย่าง ‘ฟักทอง’ ซึ่งประกอบด้วยวิตามิน A, C และ E รวมถึงแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการอย่างแคลเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม จึงเป็นอีกหนึ่งชอยส์สำหรับการเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง สามารถทำลายเชื้อหวัดอันนำมาสู่น้ำมูกและเสมหะ แต่ถ้าหากใครมีน้ำมูกอยู่ ต้องไม่พลาด ‘เมล็ดฟักทอง’ ตัวช่วยกำจัดน้ำมูกที่มีโอเมก้า 3 ต้านอาการอักเสบที่เกิดขึ้น 

เท่านั้นยังไม่พอเพราะอนุมูลอิสระก็มาแน่นอีกด้วย สำหรับวิธีทานฟักทองให้ได้รับสารอาหารมากที่สุด คือ การนึ่ง ปั่น หรือทำซุปฟักทองที่ยังคงเปลือกอยู่ เนื่องจากเป็นตัวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากใครคิดว่าเย็นนี้กินสังขยาฟักทองแบบจัดเต็มดีกว่า ให้หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้ เพราะน้ำตาลสูงปรี๊ด

3. กีวี

อีกหนึ่งผลไม้ที่ช่วยเติมความสดชื่นให้ตื่นเต็มตา ‘กีวี’ มีวิตามินซีสูงกว่าส้มมากกว่า 70% ทานเพียง 2 ผลต่อวันก็เพียงพอและช่วยเสริมความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกันโรคได้ ถือเป็นเกาะป้องกันตามธรรมชาติที่ช่วยต้านหวัดและไข้หวัดใหญ่ ความพิเศษอีกอย่างคือ ไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มเร็วและนานขึ้น ใครที่ระบบย่อยไม่ดีต้องลองทาน!

ส่วนวิธีทานกีวีที่ได้คุณประโยชน์ครบถ้วนคือการทานเปลือกด้วย เพราะมี ‘ฟีนอลิก’ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน แถมช่วยปกป้องเราจากความเครียดได้อีกด้วย ดังนั้นครั้งต่อไปที่ทานกีวี อาจจะหั่นเป็นแว่นกินพร้อมเปลือกไปเลย ได้สารอาหารเต็มคำแน่นอน!

4. แตงโม

แตงโมถือเป็นหนึ่งในผลไม้แก้หวัดที่ใคร ๆ ก็ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน จะมีอะไรดับกระหายไปได้ดีกว่าแตงโมเย็น ๆ ล่ะ โดยผลแตงโมอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่หลากหลายชนิด จึงช่วยป้องกันไข้หวัดและบรรเทาการอักเสบของร่างกายได้ โดยเฉพาะวิตามินซีคนดีคนเดิมที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

ส่วนวิธีทานควรล้างเปลือกให้สะอาดหมดจดป้องกันสารพิษตกค้าง จากนั้นหั่นเนื้อแตงโมให้ติดส่วนที่เป็นสีขาว เพราะมี ‘Citrulline’ สารสำคัญที่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันและดีต่อผู้ที่เป็นเบาหวานเพราะแคลอรีต่ำมาก

5. มะขามป้อม

ผลไม้ชนิดต่อมาขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรชั้นดีอยู่แล้ว สำหรับ ‘มะขาวป้อม’ มีผลกลมสีเขียว รสชาติไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่เพราะมีความเปรี้ยวปรี๊ด ฝาด ขมแต่อมหวานเล็กน้อย และแน่นอนว่าเต็มไปด้วยวิตามินซี (100 กรัมประกอบด้วย Vitamin C 276 มิลลิกรัม) สูงกว่าส้ม 20 เท่า ซึ่งช่วยป้องกันหวัดได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้มะขามป้อมยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและขับเสมหะ การทานให้ได้คุณประโยชน์ต้องนำไปคั่นน้ำหรือใครจะนำมาจิ้มเกลือนิดหน่อยก็ได้ รับรองว่าชุ่มคอ

6. เสาวรส

‘เสาวรส’ ผลไม้จากต่างแดนที่เลื่องชื่อเรื่องความเปรี้ยว มีวิตามินซีสูงมากแต่กลิ่นหอมเตะจมูกสำหรับบางคนอาจจะไม่โปรดปรานนัก อย่างไรก็ตามสรรพคุณของเสาวรสช่วยป้องกันหวัดได้ ใครที่เป็นหวัดบ่อย ๆ ต้องลอง ส่วนวิธีทานก็สามารถทานสด ๆ ได้ทันที อาจจะเลือกลูกที่มีผิวเต่งตึงไม่เหี่ยว ปริมาณที่พอเหมาะคือ 3 – 4 ผลต่อวัน ไม่ควรมากเกินเพราะอาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศหญิง

7. แอปเปิล

มาปิดท้ายกันที่สุดยอดผลไม้แก้หวัดที่สวยทั้งรูปจูบก็หอมอย่าง ‘แอปเปิล’ ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีจึงช่วยเสริมภูมิต้านทานได้ และมีสาร ‘ฟลาโวนอยด์’ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสห่างไกลโรคหัวใจและมะเร็ง 

หากถามว่าแอปเปิลสีเขียวกับแดงต่างกันยังไง? จุดเด่นของแอปเปิลเขียวคือแคลอรีต่ำและน้ำตาลน้อยกว่าสีอื่น แต่วิตามินซีสูงเกินใคร แน่นอนว่าเราแนะนำแอปเปิลเขียว ซึ่งไม่ควรทานเกินวันละ 4 ลูก ต้องล้างให้สะอาดก่อนกินไปทั้งเปลือกเพื่อให้สารอาหารอยู่ครบ

สุดยอดผลไม้แก้หวัด 7 ชนิดที่หาซื้อง่าย แถมคุณประโยชน์เพียบ!

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับผลไม้แก้หวัดทั้ง 7 ชนิดที่ ‘AROUNDBKK’ หยิบมาแนะนำกันในวันนี้ แต่ละอย่างบอกเลยว่าสรรพคุณแน่น อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบภูมิคุ้มกัน ต้านหวัดได้เป็นอย่างดี แถมบางพืชผลยังช่วยลดน้ำมูกและขับเสมหะอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวิธีทานที่ถูกต้องมาแนะนำ บางชนิดอาจจะแปลกใหม่สำหรับใครบางคน แต่รับรองว่าได้สารอาหารครบถ้วนแน่นอน 

Related Blog

แนะนำ 5 สปาและศูนย์ดูแลสุขภาพ บรรยากาศดี บริการเยี่ยม

HEALTH & WELLNESS

7 ร้านนวดหินร้อนในกรุงเทพ ฟื้นฟูร่างกายให้ผ่อนคลาย

HEALTH & WELLNESS

แจก 5 สูตรเมนู Plant-based Food ทำง่าย อร่อย ไม่มีเบื่อ

HEALTH & WELLNESS