จัดอันดับ 10 ครีมลดหน้ามัน รูขุมขนกว้างที่เห็นผลจริง!

หน้ามันเป็นปัญหาที่แสนจะกวนใจที่เกิดขึ้นกับสาวๆ หลายคน หรือแม้แต่หนุ่มๆ ก็หนีปัญหาผิวมันไม่พ้น เพราะในชีวิตประจำวันที่ต้องเจอทั้งฝุ่นและมลภาวะรวมถึงเมคอัพ ที่ถึงแม้จะแต่งหน้าสวยแค่ไหนสุดท้ายก็ไหลเยิ้มระหว่างวันอยู่ดี ส่งผลให้เกิดการอุดตันเป็นสิวเต็มหน้าไปหมด แถมยังตามมาด้วยปัญหารูขุมขนกว้างที่รักษายากไม่แพ้กัน ทำให้หลายคนต้องกุมขมับเลยทีเดียว ใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป วันนี้เราจะมาแนะนำ 10 อันดับ ครีมลดหน้ามัน กระชับรูขุมขนที่เห็นผลจริง

มารู้จัก ”ผิวมัน” กันก่อน

ปัญหาหน้ามันนั้นเกิดจากต่อมไขมันที่แทรกตัวอยู่ตามบริเวณรูขุมขนใต้ชั้นผิวหนัง (Sebaceous Gland) ผลิตน้ำมันขึ้นบนผิวหน้า เพื่อควบคุมสภาพผิวหน้าที่แห้งให้กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง แต่น้ำมันถูกผลิตออกมามากจนเกินไปจนเกิดเป็นปัญหาผิวมันที่ตามมา โดยจะมีการผลิตน้ำมันออกมามากที่บริเวณจมูกและบริเวณ T-Zone ซึ่งปัญหา “ผิวมัน” นั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่

1. ลักษณะทางกรรมพันธุ์ ที่ทำให้ต่อมไขมันนั้นผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป
2. สภาพอากาศหรือสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาได้มากขึ้น เช่น อากาศร้อน
3. การล้างหน้าที่บ่อยเกินไป ส่งผลให้หน้าแห้ง ต่อมไขมันยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น
4. ระดับฮอร์โมนในร่างกายที่ผิดปกติ ทำให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้น ยิ่งขับน้ำมันออกมามากขึ้นเช่นกัน
5. การใช้สกินแคร์ที่ไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง

สกินแคร์แบบไหน? เหมาะกับคนหน้ามัน

เนื่องจากผิวมันง่ายต่อการเกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา อย่างปัญหาการอุดตันใต้ผิวหนังจนเกิดเป็นสิวเสี้ยน สิวอุดตัน และรูขุมขนที่กว้างขึ้น ทำให้บรรดาหนุ่มสาวผิวมันต้องใส่ใจต่อการเลือกครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวมันเป็นพิเศษ เพราะครีมลดหน้ามันยิ่งเรามีผิวมัน ก็จะยิ่งไม่เหมาะกับสกินแคร์ที่มีเนื้อสัมผัสที่หนักผิวหน้าหรือสกินแคร์ที่เป็นแบบ Oil มากนัก ควรเลือกสกินแคร์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ช่วยซึมซับความมันได้ดี มีเนื้อเป็นน้ำหรือเจล เพื่อให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายไม่อุดตัน วันนี้เราเลยรวม 10 รีวิว ครีมลดหน้ามัน ที่คนผิวมันใช้ได้ ใช้ดี มารีวิวให้ฟังกัน

10 อันดับ ครีมลดหน้ามัน น่าใช้

1. Clinique iD : Dramatically Different Hydrating Clearing Jelly
2. DRUNK ELEPHANT B-Hydra™ Intensive Hydration Serum
3. DRUNK ELEPHANT Protini Polypeptide Cream
4. Kiehl’s Ultra Facial Oil-Free Toner
5. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
6. Kiehl’s Ultra Facial Oil-Free Gel Cream
7. Clinique iD Dramatically Different™ Hydrating Clearing Jelly
8. DR. JART+ Ctrl-A Teatreement™ Moisturizer
9. L’occitane Immortelle Divine Youth Face Oil
10. Biotherm Life Plankton Clear Essence

1. Clinique iD : Dramatically Different Hydrating Clearing Jelly

รีวิว ครีมลดหน้ามัน ตัวแรกที่มาแรงไม่มีตก เป็นไอเท็มที่สาวผิวมันเป็นสิวง่ายขาดไม่ได้สำหรับ “Clinique iD” ที่มีตัวเบสเนื้อเจลสีใส บางเบา ซึมง่ายไม่เหนอะหนะ ถูกใจสาวผิวมันสุดๆ ด้วยเบสเจลที่สร้างความชุ่มชื้นปรับสมดุลผิวหน้าให้เนียนนุ่มยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ใช้คู่กับตัว Booster สีฟ้า ก็จะช่วยกระชับรูขุมขน ให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนขึ้นภายใน 3 วันหลังใช้ เพราะด้วยสารสกัดเข้มข้นตัวดังของ Clinique อย่าง Lactobacillus Plantarum ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ใครที่มีปัญหาผิวมันจะขาดไอเท็มนี้ไม่ได้เลย

• ข้อดี :
• 1.  ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบา อ่อนโยนกับทุกสภาพผิว ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
• 2. มีโครงสร้างของเบสเจลที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน
• 3. มีการจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการใช้สารสกัดจาก Lactobacillus Plantarum ในการปกป้องผิว และลดการสิว
• ข้อเสีย : –
• ราคา : 115ml / 1,400 บาท

2. DRUNK ELEPHANT B-Hydra™ Intensive Hydration Serum

B-Hydra เซรั่มตัว Best Seller ยอดฮิตที่สุดของแบรนด์ DRUNK ELEPHANT สกินแคร์น้องใหม่มาแรงจากฝั่งเมกา เพราะได้รับรางวัลการันตีมาเยอะมากว่าเป็นสกินแคร์ตัวช่วยแก้ปัญหาหน้ามันโดยเฉพาะ เมื่อลองใช้จริงแล้วตัวเซรั่มสูตร Bio-Compatible นี้จะให้สัมผัสคล้ายมอยส์เจอไรเซอร์ ที่มีเนื้อเจลบางเบาแต่ไม่เหลวจนเกินไป ทาแล้วซึมหายไปเหมือนเป็นน้ำเคลือบผิว ให้ความชุ่มชื้นได้ดีเนื่องจากผสานเข้ากับวิตามินบี 5 เพื่อปรับสมดุลผิวหน้าให้ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้น เหมาะมากกับคนที่มีผิว Sensitive เพราะเป็นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิวเลย

• ข้อดี :
• 1. สูตร Bio-Compatible ทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างง่ายดาย
• 2. มอบความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง
• 3. ช่วยเรื่องความเรียบเนียน ให้ผิวกระจ่างใส และอ่อนเยาว์
• ข้อเสีย : –
• ราคา : 50ml / 1,870 บาท

3. DRUNK ELEPHANT Protini Polypeptide Cream

อีกหนึ่ง ครีมลดหน้ามัน ที่ได้รับความนิยมจากแบรนด์ DRUNK ELEPHANT แบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “คลีนสกินแคร์” ที่มีมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวที่ขาดสมดุล รูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ หากใช้ Protini Polypeptide Cream นี้คู่กับตัวเซรั่ม B-Hydra จะยิ่งเห็นผลที่ดีมากขึ้น ซึ่งครีมลดหน้ามันตัวนี้จะเป็นมอยส์เจอไรเซอร์โปรตีนที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนขึ้น ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาวน์และสุขภาพดี มีส่วนผสมของเปปไทน์เข้มข้นช่วยในการทำงานของ Animo Acids และ Pygmy Waterlily ให้ผิวที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรง ริ้วรอยลดเลือนขึ้น และปกป้องผิวจากแสงแดด เหมาะกับสาวไทยสุดๆ

• ข้อดี :
• 1.  ช่วยฟื้นฟูความเรียบเนียน ให้ผิวกระชับและอ่อนเยาว์
• 2. มีส่วนผสมของเปปไทน์เข้มข้นที่สนับสนุนการทำงานของ Animo Acids และ Pygmy Waterlily
• 3. ทำให้ผิวแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย ปกป้องผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด
• ข้อเสีย : –
• ราคา : 50ml / 2,630 บาท

4. Kiehl’s Ultra Facial Oil-Free Toner

โทนเนอร์สำหรับคุมความมันบนผิว ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ดีแนท ที่จะทำให้หน้าของคุณตึงและแห้งเกินไปส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นได้ แต่โทนเนอร์ตัวนี้จะมอบความสดชื่นให้แก่ผิวได้อย่างอ่อนโยน ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า จะใช้ทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นต่อไป โดยที่โทนเนอร์ตัวนี้จะไม่ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น เพราะเป็นโทนเนอร์ที่มีค่า PH เหมาะสมต่อใบหน้า เมื่อใช้จะเห็นผลตั้งแต่วันแรกที่ใช้เลยว่าใบหน้ามีความมันลดลง เหมาะสำหรับคนผิวธรรมดาไปจนถึงผิวมันอย่างมาก เป็นสกินแคร์ที่คนหน้ามันต้องใช้ให้ได้

• ข้อดี :
• 1.  ช่วยลดความมันส่วนเกิน
• 2. ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ดีแนท (Alcohol denat) และไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
• 3. ขจัดสิ่งสกปรกตกค้างที่หลงเหลืออยู่บนผิว โดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นที่จำเป็น
• ข้อเสีย : –
• ราคา : 250ml / 1,050 บาท

5. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%

รีวิว ครีมลดหน้ามัน จะขาดตัวนี้ไปไม่ได้ The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% ครีมลดหน้ามัน ตัวดังจากอังกฤษ ที่มีเนื้อสัมผัสแบบน้ำเข้มข้น สีใส ให้ความรู้สึกเหมือนการมาสก์หน้า มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 และZinc ที่จะช่วยในเรื่องรอยดำ รอยแดง และปัญหาสิวต่างๆ ได้อย่างชัดเจน พร้อมการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ปรับให้สีผิวสม่ำเสมอ นุ่มนวล กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แถมมาในราคาหลักร้อย ของถูกและดีมีอยู่จริง!

• ข้อดี :
• 1. มีส่วนประกอบของ Zinc ช่วยเรื่องการควบคุมความมันและลดการอักเสบของสิว
• 2. เนื้อผลิตภัณฑ์ Liquid ใส คล้ายกับน้ำในแผ่นมาสก์หน้า มีความหนึบ
• 3. ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ ผิวใสและละเอียดมากขึ้น
• ข้อเสีย :
• 1. ควรใช้แค่ตอนก่อนนอน เนื่องจากเนื้อผลิตภัณฑ์มีความหนึบ เมื่อโดนฝุ่นหรือเครื่องสำอางอาจจะทำให้หน้าเป็นขุยได้
• ราคา : 30ml / 389 บาท (ราคาในแต่เว็บที่ขายไม่เท่ากัน)

6. Kiehl’s Ultra Facial Oil-Free Gel Cream

เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีในทุกการรีวิวสกินแคร์สำหรับผิวมันที่บิวตี้บล็อกเกอร์เลือกใช้ เพราะเป็น ครีมลดหน้ามัน ที่สาวๆ ต้องตกหลุมรัก จากเนื้อสัมผัสที่เป็นเจลครีม บางเบา ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มระหว่างวัน แต่กักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนผิวได้ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมควบคุมความมันบนใบหน้า แถมมอบความสดชื่น เย็นสบายให้แก่ผิวเหมือนเป็นการมาสก์หน้าเลยทีเดียว เป็นครีมลดหน้ามันที่เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะไม่มีส่วนผสมของพาราเบน น้ำหอม สารแต่งสี และที่สำคัญไม่ทิ้งคราบขาวให้หน้าดูลอยด้วย 

• ข้อดี :
• 1. ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ไม่ใช้พาราเบนเป็นวัตถุกันเสีย ไม่ส่วนผสมของน้ำหอม ไม่อุดตันรูขุมขน
• 2. ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
• 3. เพิ่มความชุ่มชื้นและปรับสภาพผิวด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์แบบเจลครีม ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้ม
• ข้อเสีย : –
• ราคา : 50 ml. 1,400 บาท

7. Clinique iD Dramatically Different™ Hydrating Clearing Jelly

ปัญหาผิวที่ทุกคนต้องเจอในช่วงนี้กับการใส่หน้ากากอนามัยจนเกิดเป็นสิวอักเสบและความมันส่วนเกินขึ้นบนใบหน้าแบบไม่รู้ตัว ทาง Clinique iD จึงปล่อยสกินแคร์สำหรับผิวมันและหน้าเป็นสิวง่ายขึ้นมาใหม่ ด้วยเนื้อเบสเจลใสสีฟ้าที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น และคืนความสมดุลให้กับผิวด้วย Microbiome ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดีขึ้น หากใช้ร่วมกับตัว Booster หลอดสีแดงที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid 2% ก็จะยิ่งช่วยแก้ปัญหาการอุดตันบนผิวหน้าได้เป็นพิเศษ เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องความมันและผิวแพ้ง่ายเป็นอย่างมาก

• ข้อดี :
• 1.  ผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจลใสสีฟ้า ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
• 2. ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน และรับมือกับปัญหาสิวอุดตัน
• 3. ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดี
• ข้อเสีย : ต้องใช้ร่วมกับบูสเตอร์ ปริมาณ 10 ml. 500 บาท
• ราคา : 1150 ml. 1,400 บาท

8. DR. JART+ Ctrl-A Teatreement™ Moisturizer

สกินแคร์สำหรับผิวหน้ามันตัวนี้ เป็นมอยส์เจอไรเซอร์สูตร Tea Treatment สำหรับการปรับสมดุลค่า PH บนผิว เพื่อดูแลผิวที่ถูกทำลายให้ฟื้นฟูขึ้นได้อย่างรวดเร็ว มอบความชุ่มชื้นบนใบหน้าจากสารสกัดเข้มข้นของใบชาที่จะช่วยกระชับรูขุมขน และที่สำคัญยังเป็นตัวช่วยในการรักษาสิวที่ได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่นเกาหลี เพราะด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะหรือหนักผิวเหมือนครีมแต้มสิวตัวอื่นๆในท้องตลาด แถมยังไม่ทิ้งสารตกค้างไว้บนใบหน้า ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

• ข้อดี :
• 1. เนื้อของผลิตภัณฑ์บางเบา
• 2. มีส่วนผสมของ Tea tree ที่ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันในชั้นผิว และลดรอยแดง รอยดำของสิว
• 3. มีการปรับดุลค่า PH และระดับความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
• ข้อเสีย : –
• ราคา : 50 ml. 1,000 บาท

9. L’occitane Immortelle Divine Youth Face Oil

สกินแคร์สำหรับผิวหน้ามัน ผิวแพ้ง่าย และรูขุมขนกว้าง ของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง L’occitane ซึ่งตัวนี้จะมีความพิเศษต่างจากสกินแคร์ตัวอื่นในวันนี้ เนื่องจากมีสัมผัสเป็นเนื้อออยล์ จากสารสกัดเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยจากดอกอิมมอคแตลที่ไม่เหี่ยวเฉา ขึ้นชื่อด้านความเข้มข้นสำหรับฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้าให้ฟื้นคืนกลับมาเปล่งปลั่งมีประกายอีกครั้ง ด้วยเนื้อสัมผัสแบบออยล์ที่ไม่ทิ้งคราบเหมือนออลย์ทั่วไป ทำให้สามารถใช้เป็นพรีเซรั่มในการเตรียมผิวได้ในทุกๆวัน ยิ่งใช้จะเห็นถึงความยืดหยุ่นของผิวที่มากขึ้น รู้สึกผิวดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

• ข้อดี :
• 1. ผลิตภัณฑ์เนื้อออยล์ที่สามารถซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
• 2. สามารถใช้เป็นพรีเซรั่มได้ โดยไม่ทิ้งคราบมันไว้แบบออยล์ทั่วไป
• 3. ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียนและอิ่มฟู
• ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ
• ราคา : 30 ml. 4,950 บาท

10. Biotherm Life Plankton Clear Essence

ตัวสุดท้ายของการรีวิว ครีมลดหน้ามัน ที่ขาดไม่ได้เลยอย่าง Life Plankton Clear Essence จาก Biotherm ที่ขึ้นชื่อด้านการบำรุงผิวด้วยเนื้อเอสเซ้นส์ที่บางเบา ให้สัมผัสเหมือนน้ำเปล่าผสานเข้ากับสารสกัด Life Plankton สูงถึง 5% ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Biotherm ใช้ในการบำรุงผิวหน้าขั้นแรกสุด เพื่อเน้นไปที่การสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวแต่ไม่มันเยิ้ม ช่วยให้ผิวกระชับดูเนียนละเอียดขึ้น และจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังจากใช้ต่อเนื่องกันเพียง 8 วันเท่านั้น!

• ข้อดี :
• 1. เนื้อผลิตภัณฑ์คล้ายกับน้ำเปล่า มีความบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
• 2. ช่วยควบคุมความมัน
• 3. มีส่วนผสมจาก Life Plankton 5% ช่วยฟื้นบำรุงผิว ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
• ข้อเสีย : –
• ราคา : 125 ml. 2,550 บาท

ทั้งหมดนี้คือการรีวิว 10 อันดับ ครีมลดหน้ามัน กระชับรูขุมขนที่เห็นผลจากการทดลองใช้จริง หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับคนที่มีปัญหาผิวมันโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณได้เลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองจริงๆ และช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงจุด รวมถึงเปลี่ยนปัญหาผิวหน้ามันเยิ้มระหว่างวันให้เป็นผิวที่สวยสุขภาพดี