1. หน้าหลัก AroundBKK
  2. / บทความ
  3. / HEALTH & WELLNESS
  4. / ต้องซื้อประกันประเภทไหน ลดหย่อนภาษีได้ ?

ต้องซื้อประกันประเภทไหน ลดหย่อนภาษีได้ ?

Published on มีนาคม 16, 2023
SHARE

เมื่อถึงวัยที่มีเงินเดือนและต้องเสียภาษี หลายคนคงจะเคยได้รับคำแนะนำว่าให้ซื้อประกัน ทั้งเพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และนำมาใช้ลดหย่อนภาษี แน่นอนว่าการซื้อประกันเพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนมีความเข้าใจกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่การซื้อประกันเพื่อนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษี อาจจะไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่สำหรับเหล่าเด็กจบใหม่ หรือ Fist Jobber ที่กำลังจะเตรียมยื่นภาษีเป็นครั้งแรกซึ่งในวันนี้ AROUNDBKK จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า ทำไมการซื้อประกันถึงนำลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงประเภทของประกันที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้

ทำไมการซื้อประกันถึงนำมาลดหย่อนภาษีได้

เพราะการทำประกัน คือการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต โดยเงินที่ทำประกันสามารถให้ผลตอบแทนหรือชดเชยความเสียหายได้ เช่น ได้รับเงินชดเชยกรณีเกิดอุบัติเหตุ หากเสียชีวิตครอบครัวก็จะได้รับสินไหมจากประกัน มีเงินเลี้ยงดูตนเองเมื่อเกษียณ เป็นต้น ดังนั้นการที่รัฐบาลให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีก็เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนทำประกันนั่นเอง

ประเภทของประกันที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้

1. ประกันชีวิต

การทำประกันชีวิต สามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อยของประกันชีวิตได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

ประเภทย่อยของประกันชีวิต

ประกันชีวิตแบบทั่วไป

ได้แก่ ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา, ประกันชีวิตตลอดชีพ และประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์  โดยสามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุดถึง 100,000 บาท แต่ต้องมีอายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป และเงินคืนระหว่างสัญญาไม่เกิน 20% 

ประกันชีวิตแบบบำนาญ

หรือแบบเงินได้ประจำ สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงกว่าประกันชีวิตแบบทั่วไป โดยจะลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และไม่เกิน 15% ของเงินได้ นอกจากนี้ยังสามารถลดหย่อนเพิ่มได้อีก 100,000 บาท หากไม่ได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนสำหรับประกันชีวิตแบบทั่วไป รวมลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท

life-insurance

2. ประกันสุขภาพ

เงื่อนไขของประกันสุขภาพที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ จะต้องเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การชดเชยทุพพลภาพ และการสูญเสียอวัยวะเนื่องจากการเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ, ประกันอุบัติเหตุเฉพาะที่คุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การชดเชยทุพพลภาพ การแตกหักของกระดูก และการสูญเสียอวัยวะ, ประกันโรคร้ายแรง และประกันภัยการดูแลระยะยาว  โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อยของประกันสุขภาพได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

ประเภทย่อยของประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพตนเอง

สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี กรณีทำร่วมกับประกันชีวิตทั่วไปหรือเงินฝากแบบมีประกันชีวิต จะต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี และหากทำร่วมกับประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถนำเบี้ยรวมไปลดหย่อนได้ไม่เกิน 215,000 บาทต่อปี 

ประกันสุขภาพที่ทำให้พ่อแม่ หรือคู่สมรส

สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาทต่อปี หารเฉลี่ยตามจำนวนพี่น้องที่ร่วมจ่าย (เช่น เบี้ยประกัน 15,000 บาท จ่ายร่วมกับพี่น้อง 3 คน จะได้ลดหย่อนต่อคนสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท) โดยรายได้ของพ่อแม่รวมกันจะต้องไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ในส่วนของคู่สมรส หากคู่สมรสไม่มีรายได้ สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินคนละ 15,000 บาท

health-insurance

ลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกัน ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

สำหรับผู้มีรายได้ที่ต้องการนำเบี้ยประกันไปใช้ลดหย่อนภาษี ทั้งประกันสุขภาพที่ทำให้ตัวเองและพ่อแม่ รวมถึงประกันชีวิตไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารใด ๆ เพียงแต่ต้องแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ์ขอยกเว้นภาษีเงินได้ ผ่านเอกสารหรือช่องทางที่บริษัทผู้รับประกัน หรือตัวแทนประกันกำหนด เพื่อให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันให้กรมสรรพากรดำเนินการต่อไป

how-to-prepare-document-to-get-taxes-deducted

และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีที่ AROUNDBKK ได้รวบรวมมาให้คุณ สำหรับคนที่ไม่มีประกันและต้องเสียภาษีเป็นประจำทุกปี ก็อย่าลืมนำแนวทางนี้ไปพิจารณา เพื่อให้คุณได้ทั้งสิทธิ์ลดหย่อนภาษี และได้หลักประกันค่ารักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การลงทุนเป็นอย่างมาก

Related Blog

แนะนำ 5 สปาและศูนย์ดูแลสุขภาพ บรรยากาศดี บริการเยี่ยม

HEALTH & WELLNESS

7 ร้านนวดหินร้อนในกรุงเทพ ฟื้นฟูร่างกายให้ผ่อนคลาย

HEALTH & WELLNESS

แจก 5 สูตรเมนู Plant-based Food ทำง่าย อร่อย ไม่มีเบื่อ

HEALTH & WELLNESS