1. หน้าหลัก AroundBKK
  2. / บทความ
  3. / HEALTH & WELLNESS
  4. / แจก 5 สูตรเมนู Plant-based Food ทำง่าย อร่อย ไม่มีเบื่อ

แจก 5 สูตรเมนู Plant-based Food ทำง่าย อร่อย ไม่มีเบื่อ

Published on ตุลาคม 1, 2024
SHARE
สูตรเมนู Plant-based Food_9

เค้าบอกกันว่าสุขภาพของคุณจะเป็นอย่างไร โรคของคุณจะมาน้อยแค่ไหน ล้วนมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นหลัก หากคุณเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สุขภาพกายและรวมไปถึงสุขภาพใจของคุณก็จะดี แต่ถ้าคุณเลือกทานอาหารแบบตามใจปาก โดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียที่ตามมา ก็มีส่วนทำให้เกิดโรคมากมายในช่วงบั้นปลายของชีวิตได้ และในช่วงปีหลัง ๆ มานี้ เทรนด์รักสุขภาพมาแรงและเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ผู้คนหันมาปรับพฤติกรรมการกินให้ดียิ่งขึ้น ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ AroundBKK จึงจะมาบอกต่อ 5 สูตรเมนู Plant-based Food ที่คุณสามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและคนรักผักผลไม้ทุกคน!

Plant-based Food คืออะไร?

Plant-based Food คืออาหารที่มีส่วนประกอบของพืชเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือถั่วต่าง ๆ อย่างสลัดผัก แกงจืด ซุปสาหร่าย แซนด์วิชผัก เทมเป้ เต้าหู้ทอด คุกกี้ธัญพืช ไอศกรีมถั่วเหลือง ฯลฯ ซึ่งการทาน Plant-based Food จะทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนจากพืชแทนโปรตีนจากสัตว์ แต่ไม่ใช่ว่าจะคนทาน Plant-based Food จะทานเนื้อสัตว์ไม่ได้อย่างคนทานมังสวิรัติ (Vegetarian) สามารถทานเนื้อสัตว์ได้ปกติ เพียงแค่รับประทานอาหารที่ทำจากพืชเป็นหลัก

สูตรเมนู Plant-based Food

ประโยชน์ของ Plant-based Food

Plant-based Food ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนที่อยากให้ชีวิตนี้มีสุขภาพดีในระยะยาว ไม่มีปัญหาโรครุมเร้าเมื่อถึงวัยสูงอายุ ซึ่ง Plant-based Food มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และเหล่าสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อนาคตได้ นอกจากนี้ ยังทำให้สุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวพรรณดีขึ้นจากภายใน ผิวเปล่งปลั่ง เนียนนุ่ม ดูอ่อนเยาว์เหมือนผิวเด็ก และยังเป็นตัวช่วยควบคุมน้ำหนักของใครหลาย ๆ คนอีกด้วย

เปิด 5 สูตรเมนู Plant-based Food ทำง่ายมาก!

เตรียมจดลิสต์วัดถุดิบและเข้าครัวไปทำเมนู Plant-based Food สุดอร่อยและทานง่ายได้เลย เพราะแต่ละเมนูเป็นเมนูที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ แถมยังทำง่ายมาก ๆ ใครไม่เคยเข้าครัวมาก่อนก็ทำได้

1. ผัดไทยเทมเป้

เริ่มต้นด้วยเมนูอาหารไทยที่ใคร ๆ ก็ชอบทานอย่างผัดไทย แต่ในเมื่อเป็นสูตรเมนู Plant-based Food ก็ลืมกุ้งแม่น้ำตัวโตไปได้เลย เพราะเราจะเลือกใช้เป็นเทมเป้แทน ซึ่งเทมเป้ (Tempeh) คือถั่วเหลืองที่เอาไปหมักกับจุลินทรีย์ชนิดดี เพื่อทำให้เกิดเส้นใยสีขาวขึ้นมา โดยเส้นใยนั้นจะไปปกคลุมและทำให้ถั่วเหลืองหมักมีลักษณะเป็นก้อน เทมเป้มีรสชาติจืด ๆ คล้ายถั่วต้มหรือเต้าหู้ (แตกต่างกันไประยะเวลาและกรรมวิธีการหมัก) ทำให้กินยากสักหน่อย แต่ถ้าคุณนำมาทำผัดไทยเทมเป้ล่ะก็ รับรองทานง่ายและอร่อยอิ่มท้องแน่นอน

วิธีทำผัดไทยเทมเป้

  1. ลวกเส้นจันท์ให้สุกตามระดับที่ชื่นชอบ
  2. หั่นเทมเป้ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และนำไปทอดให้เหลืองกรอบ
  3. ผัดเส้นจันท์กับน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ใส่ต้นหอม ไชโป๊วหวาน ถั่วลิสงคั่วบด เทมเป้ทอด ลงไป และผัดให้เท่ากัน

2. แกงเขียวหวานเต้าหู้

แกงเขียวหวานเต้าหู้ เมนูสุขภาพสำหรับคนทาน Plant-based Food ทำไม่ยากและกินได้ตลอด ไม่เบื่อง่ายแน่นอน เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์อย่างเนื้อไก่มาเป็นเต้าหู้ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นกันดีกว่า

วิธีทำแกงเขียวหวานเต้าหู้

  1. ผัดพริกแกงเขียวหวาน 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำมัน
  2. เติมน้ำกะทิลงไป 1 ถ้วน เคี่ยวกะทิให้เดือด
  3. เพิ่มเต้าหู้ มะเขือยาว และใบมะกรูด
  4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาตามใจชอบ

3. สปาเก็ตตีผัดขี้เมาเห็ด

มาถึงสูตรเมนู Plant-based Food สไตล์อิตาเลียนอย่างสปาเก็ตตีผัดขี้เมาเห็ดกันบ้าง เราเชื่อว่าเมนูผัดขี้เมาเป็นเมนูที่ใครหลายคนชื่นชอบ ด้วยรสเผ็ดจัดจ้านกำลังดี กลมกล่อมทานง่าย แม้จะมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกกินยากเกินไป เมนูนี้ทำไม่ยากอย่างที่คิดใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็พร้อมทานแล้ว

วิธีทำสปาเก็ตตีผัดขี้เมาเห็ด

  1. ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดและเส้นสปาเก็ตตีลงไป พร้อมเกลือเล็กน้อย (ป้องกันไม่ให้เส้นติดกัน)
  2. เมื่อต้มเส้นครบ 12 นาทีแล้ว ให้นำเส้นไปแช่น้ำเย็นจัดและพักไว้
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พริก เห็ด และผักที่ชื่นชอบลงไปผัดจนกว่าจะสุกทั่วถึงกัน
  4. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว น้ำตาลทรายเล็กน้อย
  5. เติมพริกไทยสด ใบโหระพา และเต้าหู้ (ถ้าต้องการ) ลงไป และนำไปเสิร์ฟได้

4. ผัดผักบุ้งเนื้อสามชั้นแพลนต์เบส

เห็นคำว่าเนื้อสามชั้นแล้วอย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเนื้อสามชั้นที่ว่านี้เป็น Plant-based Food เช่นกัน ทำจากพืชอย่างถั่วเหลืองและแป้งสาลี ทั้งกลิ่นและสีแต่งจากของพืชตามธรรมชาติล้วน ๆ นอกจากรูปร่างหน้าตาจะเหมือนเนื้อสามชั้นหรือหมูกรอบแล้ว รสชาติและสัมผัสก็คล้ายคลึงกับของจริงมาก แต่ไม่มีคอเลสเตอรอลใด ๆ ทำให้คุณสามารถทำทานได้แบบไม่ต้องรู้สึกผิดกับร่างกายเลย

วิธีทำผัดผักบุ้งเนื้อสามชั้นแพลนต์เบส

  1. ล้างวัตถุดิบ สับกระเทียมเตรียมไว้ 2-3 กลีบ และหั่นผักบุ้งตามความยาวที่ชอบ
  2. เติมน้ำบนกระทะเทฟล่อน เพื่อใช้ในการผัดกับกระเทียมแทนการใช้น้ำมัน
  3. เมื่อกระเทียมสุกแล้วให้เติมเนื้อสามชั้นแพลนต์เบสลงไปผัดจนสุก
  4. ใส่ผักบุ้งลงไปผัด พร้อมกับปรุงรสด้วยน้ำปลา เต้าเจี้ยว และน้ำมันหอยตามใจชอบ

5. ผัดมะเขือยาวหมูสับแพลนต์เบส

ผัดมะเขือยาวหมูสับแพลนต์เบสเป็นสูตรเมนู Plant-based Food สุดท้ายที่เราอยากให้คุณลองทำ เพราะมันอร่อยและทำง่ายมากกว่าที่คิด! ตัวหมูสับแพลนต์เบสหรือหมูบดนี้ มักจะทำมาจากข้าว ถั่ว และเห็ด ทำให้อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์สูง แต่มีคอเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัว หรือแคลอรีต่ำ รสชาติเหมือนหมูสับแท้อย่างมาก บอกเลยว่าถ้าไม่บอกว่าเป็นหมูสับแพลนต์เบสก็ไม่รู้ชัวร์ ๆ 

วิธีทำผัดมะเขือยาวหมูสับแพลนต์เบส

  1. หั่นมะเขือยาวเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมสับกระเทียม 2-3 กลีบ
  2. ตั้งกระทะเปิดไฟแล้วใส่น้ำลงไปผัดกับกระเทียมแทนน้ำมัน
  3. หลังจากที่กระเทียมสุกหอมแล้ว ให้ใส่น้ำเพิ่มเล็กน้อย พร้อมมะเขือยาวที่เตรียมไว้
  4. ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ผัดไปเรื่อย ๆ จนกว่ามะเขือยาวจะสุกนิ่ม
  5. เติมใบโหระพา พร้อมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และเต้าเจี้ยว
  6. ผัดต่ออีกเล็กน้อยให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นอันเสร็จ

บทสรุป

หวังว่าสูตรเมนู Plant-based Food ทั้ง  5 สูตรนี้จะถูกใจเพื่อน ๆ ชาว AroundBKK ไม่น้อย แต่ละเมนูสามารถทำเองได้ง่าย ๆ กับวัตถุดิบที่หาซื้อได้ตามห้างร้านทั่วไป นอกเหนือจากเทมเป้ เนื้อสามชั้น และหมูสับที่เป็นแพลนต์เบสแล้ว ก็ยังมีโปรตีนจากพืชอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน อาทิ นักเก็ตไก่ เบอร์เกอร์หมู โบโลน่า ไส้กรอก หมูปิ้ง ฯลฯ สามารถเลือกสลับสับเปลี่ยนเนื้อแพลนต์เบสเหล่านี้กับเมนูที่ชื่นชอบได้เลย รวมทั้งยังเอาไปทานกับเมนูสลัดผัดผลไม้ได้แบบฟิน ๆ อีกด้วย

Related Blog

แนะนำ 5 สปาและศูนย์ดูแลสุขภาพ บรรยากาศดี บริการเยี่ยม

HEALTH & WELLNESS

7 ร้านนวดหินร้อนในกรุงเทพ ฟื้นฟูร่างกายให้ผ่อนคลาย

HEALTH & WELLNESS

5 ร้านนวดแผนไทยระดับพรีเมียมที่คุณต้องไปลองสักครั้ง

HEALTH & WELLNESS