กระโจนเข้าสู่ตลาด Forex ด้วยการลงทุนผ่านโบรกเกอร์
เมื่อพูดถึงการลงทุนที่กำลังมาแรงและได้รับความสนใจในตลาดตอนนี้ ก็ต้องพูดถึงการลงทุนในตลาด Forex เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่มีผลตอบแทนกำไรดี ให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และนักเทรดจำนวนไม่น้อยก็หันมากระโดดสู่ตลาด Forex เพื่อหวังทำกำไร แต่ก็ไม่ใช่นักลงทุนทุกคนที่จะสะดวกในการนั่งเฝ้า เพราะฉะนั้น โบรกเกอร์ Forex จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์
โบรกเกอร์ คืออะไร?
สำหรับคนที่ต้องการจะลงทุนในตลาด Forex แต่ไม่สะดวกที่จะลงทุนด้วยตัวเอง หรือเป็นมือใหม่เกี่ยวกับการลงทุน โบรกเกอร์ Forex จะเป็นตัวกลางที่สำคัญในการลงทุนนี้ กล่าวคือ บริษัทหรือผู้ที่ทำหน้าที่ในการเป็นตัวแทนทำการสั่งซื้อหรือทำการขายไปยังตลาด Forex หรือคำอธิบายที่สามารถเข้าใจได้ง่ายก็คือ “นายหน้า” ที่จะทำการซื้อขายแทนผู้ลงทุน และการที่จะทำกำไรในตลาด Forex ผู้ซื้อ-ผู้ขาย จะต้องทำการเปิดบัญชีเพื่อเทรดกับโบรกเกอร์นั้นๆ
โบรกเกอร์ Forex มีกี่ประเภท?
โบรกเกอร์ Forex จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ โบรกเกอร์แบบ Dealing Desk และ โบรกเกอร์แบบ Non Dealing Desk ซึ่งจะมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของโบรกเกอร์ รวมไปถึงมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันด้วยเช่นเดียวกัน โดยทางเราได้รวบรวมข้อมูลนำเอามาให้แล้วเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง โบรกเกอร์แบบ Dealing Desk และ โบรกเกอร์แบบ Non Dealing Desk เพื่อประกอบการตัดสินใจ
โบรกเกอร์แบบ Dealing Desk คือ?
โบรกเกอร์แบบ Dealing Desk หรือ โบรกเกอร์ DD เป็นโบรกเกอร์ที่จะมีหน้าที่สำคัญในการทำให้ตลาดเกิดสภาพคล่องแบบผ่านเคาร์เตอร์จัดการ หรือที่เรียกว่า Market Maker กล่าวคือ เมื่อคำสั่งซื้อของคุณถูกส่งไปยังโบรกเกอร์ ในการทำการซื้อขายโบรกเกอร์จะพยายามทำการจับคู่คำสั่งซื้อกับอีกฝั่งในระบบกับลูกค้าคนอื่นก่อน และส่วนที่เกินจะถูกส่งต่อไปที่ผู้ให้สภาพคล่องในตลาด
- ข้อดี : มีค่าบริการที่ค่อนข้างต่ำ และมีค่า Spread คงที่ตายตัว
- ข้อเสีย : ค่า Latency สูงขึ้น เนื่องจากมีการดำเนินการผ่านทางเคาร์เตอร์จัดการ และอาจเกิดความล่าช้าในการดำเนินการ
โบรกเกอร์แบบ Non Dealing Desk คือ?
โบรกเกอร์ Forex แบบ Non Dealing Desk หรือ โบรกเกอร์ NDD เป็นโบรกเกอร์ที่จะใช้ระบบในการทำงานโดยตรงกับผู้ให้บริการสภาพคล่องในตลาดหรือ กล่าวได้คือ เป็นผู้ที่จะเป็นเพียงสะพานหรือตัวกลางเพื่อทำการซื้อขายเท่านั้น โดยจะมีการคิดค่าธรรมเนียม, Commission, Spread มีการแบ่งออกเป็นโบรกเกอร์ STP (Straight Through Processing) และโบรกเกอร์ ECN (Electronic Communication Network)
- ข้อดี : คำสั่งซื้อดำเนินการเร็ว และมีความปลอดภัยสูงกว่าแบบ Dealing Desk
- ข้อเสีย : อาจมีค่าบริการที่สูงกว่าโบรกเกอร์แบบ Dealing Desk
โบรกเกอร์ที่ดี ควรเป็นอย่างไร?
เนื่องจาก โบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่ จะเป็นบริษัทจากต่างประเทศ ดังนั้น การลงทุนในตลาด Forex ผู้ลงทุนควรมองหาโบรกเกอร์ที่มีความปลอดภัย โดยอาจเลือกจากบริษัทที่เปิดให้บริการไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพื่อการันตีความน่าเชื่อถือ และจะต้องมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง โบรกเกอร์มีใบอนุญาต สามารถที่จะติดต่อได้สะดวกตลอด 24 ชั่วโมง และแนะนำเลือกบริษัทที่มีช่องทางการฝาก-ถอน ที่มีความปลอดภัยและมีความสะดวกเหมาะสมกับคนไทยด้วย
สรุปบทความ
เนื่องจากการลงทุนกับตลาด Forex เป็นรูปแบบการลงทุนที่กำลังได้รับการพูดถึงอย่างมากในปัจจุบัน ผู้ลงทุนหลายท่านจึงหันมาให้สนใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาด Forex กันอย่างมากตามที่ได้มีการกล่าวไปในข้างต้น สำหรับผู้ที่สนใจอยากหันมาลงทุนในตลาด Forex หรือต้องการจะเกร็งกำไรในตลาดนี้ แต่เป็นมือใหม่หรือไม่มีเวลามากพอในการนั่งเฝ้า การเลือกลงทุนผ่านทาง โบรกเกอร์ Forex ที่มีประสบการณ์โดยตรง จะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างตอบโจทย์มากกว่า แต่อย่าลืมที่จะมองหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง มีหน่วยงานที่ควบคุมและน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยในการลงทุนของท่านเอง