วิธีออมเงินมนุษย์เงินเดือน เงินเดือนเท่าไหร่ก็เริ่มออมได้
วิธีออมเงินมนุษย์เงินเดือนที่ใครก็สามารถทำตามได้ไม่ว่าคุณจะมีเงินเดือนมากหรือน้อย ก็สามารถเริ่มออมได้เช่นกัน การรู้จักวางแผนการเงินให้ดีเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำอย่างมากในเศรษฐกิจที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีเป้าหมาย หรือจุดประสงค์ที่ชัดเจน ก็จะทำให้มีกำลังใจในการออมเงินมากขึ้น แล้วมีวิธีออมเงินใดบ้างที่มนุษย์เงินเดือนทำได้
แนะนำวิธีออมเงินมนุษย์เงินเดือนก็เริ่มทำได้
การออม ถือเป็นวิธีการในการสำรองเงินเอาไว้ใช้จ่ายในอนาคต หรือออมเพื่อเอาไว้ใช้ในเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ถือเป็นการบริหารความเสี่ยงอีกทางหนึ่ง มนุษย์เงินเดือนที่ได้รับเงินเดือนเป็นประจำ ก็ควรจะแบ่งส่วนหนึ่งเพื่อการออมด้วยเช่นกัน โดยแต่ละวิธีที่เราจะแนะนำสามารถนำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับรายรับ-รายจ่ายของตัวเองได้ มาลองตรวจเช็กไปพร้อมกันว่าเราจะเริ่มต้นการออมได้อย่างไรบ้าง
1. ตรวจสอบสถานะการเงินและตั้งเป้าหมายการออมเงิน
เริ่มแรกคือการตรวจสอบเพื่อดูว่าแต่ละเดือนเราพอจะออมเงินได้บ้างหรือไม่ เรามีรายรับเท่าไหร่ มีอะไรที่ต้องจ่ายเป็นประจำบ้าง เช่น การผ่อนสิ่งของต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ต้องจ่าย จากนั้นจึงเริ่มตั้งเป้าหมายการออมโดยที่ไม่ลำบากในการใช้จ่ายมากเกินไป อาจตั้งเป้าเป็นระยะสั้น ๆ ก่อนเช่น 3 เดือน แล้วขยายระยะเวลาไปเรื่อย ๆ เริ่มจากการออมเงินจำนวนน้อยก่อนก็ได้ เพื่อเป็นการฝึกวินัยให้กับตัวเอง และจะได้รู้จักวางแผนการใช้เงินมากยิ่งขึ้น
2. จัดลำดับความสำคัญสำหรับการใช้จ่ายของคุณ
ควรจัดลำดับความสำคัญให้เป็น เช่น ต้องชำระหนี้ ต้องจ่ายสิ่งของที่จำเป็น ต้องออมเงินเท่าไหร่ มีเงินที่เหลือไว้สำหรับสิ่งที่ต้องการหรือไม่ ควรลดหรือเพิ่มส่วนไหนบ้าง เพื่อให้มีการใช้จ่ายและการออมที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายในการออมเงินที่ได้ตั้งไว้นั่นเอง
3. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นเรื่องพื้นฐานในการวางแผนเกี่ยวกับการเงินเลยก็ว่าได้ เพราะจะทำให้เห็นยอดรายจ่ายได้อย่างชัดเจน จะยิ่งทำให้เราพยายามหาทางลดยอดรายจ่ายดังกล่าวที่ไม่จำเป็นออกไปให้ได้ ยิ่งปัจจุบันมีแอพบัญชีรายรับรายจ่าย ที่จะทำให้การบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นเรื่องง่ายและสะดวก มีการแสดงข้อมูลออกมาเป็นชาร์ต เป็นเปอร์เซ็นต์ให้สามารถมองเห็นภาพรวมการใช้จ่ายของเรา เพื่อการวางแผนการเงินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายด้วย Digital Notebook หรือเลือกซื้อ สติ๊กเกอร์ goodnote มาตกแต่งเพิ่มความน่ารัก ความสดใสในสมุดบันทึกของเราก็ได้เช่นกัน
4. ลดการใช้บัตรเครดิต หาวิธีลดรายจ่าย
การใช้บัตรเครดิตนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากใช้บัตรเครดิตให้เป็นก็มีประโยชน์เช่นกัน เช่น การผ่อนแบบ 0% การใช้บัตรเพื่อให้ได้แต้มสะสม ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ และควรเลือกใช้บัตรเครดิตในตอนที่มีเงินสดพอจ่ายแน่ ๆ คือไม่ควรใช้บัตรเครดิตเพราะเงินไม่พอใช้ และที่สำคัญคือไม่ควรรูดบัตรเพื่อเอาเงินในอนาคตมาใช้ เพราะเราไม่รู้ว่าระหว่างช่วงเวลาการผ่อนนั้น จะมีรายจ่ายฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้นมาทำให้เป็นอุปสรรคในการผ่อน และกลายเป็นปัญหาตามมาได้
5. มีความอดทนและมีวินัยในการออม
เราต้องปรับทัศนคติของตัวเองว่าจะตั้งใจออมเงิน ออมเงินไปเพื่ออะไร หรือหลังจากวางแผนการใช้จ่ายแล้ว แม้จะไม่มีเงินเหลือให้ออม แต่ก็จะทำให้เรามีวินัยในการชำระหนี้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ นอกจากจะมีวินัยในตัวเองแล้ว จะต้องมีความอดทนด้วย เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้การออมไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน
“ปรับทัศนคติตัวเองว่าจะตั้งใจออมเงิน ถึงแม้จะไม่เหลือเงินให้ออม เราก็จะมีวินัยในการใช้หนี้มากยิ่งขึ้น”
6. ให้รางวัลตัวเองบ้าง แต่อย่าบ่อยเกินไป
เพื่อเป็นการไม่กดดันตัวเองหรือเคร่งเครียดจนเกินไปในระหว่างการออมเงินนั้น อาจมีการให้รางวัลกับตัวเองบ้าง อาจจะแบ่งไปซื้อของที่อยากได้ กินอะไรที่อยากกินบ้าง แต่ก็อย่าให้รางวัลตัวเองบ่อยจนเกินไป จนหลายคนมักใช้เป็นข้ออ้างที่ท้ายที่สุดอาจกลายเป็นการใช้จ่ายเกินความจำเป็นก็เป็นได้
นำเงินออมไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อออมเงินตามวิธีที่เราได้แนะนำไปข้างต้นได้แล้ว ควรหาวิธีที่จะจัดการหรือต่อยอดกับเงินออมนั้น ๆ ให้เป็นประโยชน์หรือเพิ่มขึ้นด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ออมเงินในบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูง ออมเงินในบัญชีฝากประจำ หรือนำไปลงทุนต่อยอดตามความสามารถของกำลังเงินที่มี หรือตามความเสี่ยงที่รับได้ และควรศึกษาก่อนการลงทุนทุกครั้งด้วย เพื่อให้การลงทุนนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด
วิธีออมเงิน แต่ละวิธีนั้นก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพการเงินของแต่ละบุคคลเช่นกัน การออมเงินถือเป็นการวางแผนการใช้เงินได้อย่างดีอีกวิธีหนึ่ง เมื่อสามารถทำจนเกิดเป็นนิสัยการออมที่ดีได้แล้ว ก็จะสามารถออมเงินระยะยาวได้มากขึ้น การจะออมเงินในจำนวนน้อยหรือมากนั้นไม่สำคัญเท่าการมีวินัยและความอดทน เมื่อทำได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น ทำให้มีทัศนคติกับการออมที่ดีและชีวิตก็จะมีความสุขด้วยเช่นกัน