ประกันสุขภาพลูกน้อย ทำไว้ได้ประโยชน์มากกว่าที่คิด!

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า เด็กแรกเกิดจนถึง 5 ขวบ เป็นวัยที่มีโอกาสเจ็บป่วยสูง ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก RSV ท้องเสีย ซึ่งเกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ แน่นอนว่าโรคยอดฮิตในเด็กเหล่านี้ มักจะมีค่าใช้ในการรักษาค่อนข้างสูงพอสมควร ลองคิดดูสิว่า หากลูกน้อยของคุณป่วยด้วยโรคเหล่านี้บ่อยครั้งเข้า เงินที่ได้จากการทำงานก็จะเสียไปกับค่ารักษาราคาแพง จนอาจนำไปสู่การเกิดปัญหาสภาพคล่องภายในครอบครัวของคุณได้เลยทีเดียว
ดังนั้นจะดีกว่าไหม หากคุณทำประกันสุขภาพลูกน้อยที่ช่วยรองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้กับคุณ ในวันนี้  AROUNDBKK จะมาเล่าความสำคัญของการทำประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย รวมถึงเทคนิคในการเลือกแผนประกันให้คุณได้ทราบกัน

ความสำคัญของประกันสุขภาพลูกน้อย

อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า เด็กเล็กเป็นวัยที่ป่วยง่ายกว่าวัยผู้ใหญ่ และอาจมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงกว่าของผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นการลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ออกไปด้วยการทำประกันจึงดูเป็นทางออกที่สนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยความสำคัญของประกันสุขภาพลูกน้อยมีดังนี้

วัยเด็กเจ็บป่วยง่ายกว่าผู้ใหญ่

นอกจากวัยเด็กจะเจ็บป่วยง่ายกว่าผู้ใหญ่แล้ว ความรุนแรงก็อาจจะมีมากกว่าด้วย เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำ นอกจากนี้เด็กยังไม่สามารถสื่อสารอาการเจ็บป่วยออกมาได้ และพ่อแม่ก็ทำได้เพียงสังเกตอาการจากความผิดปกติตามร่างกาย ทำให้ในบางครั้งอาจจะต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ 2-3 คืน และหากเป็นโรคที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ก็จะต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกหลายวัน และถ้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนดี ๆ แค่จ่ายค่าห้อง 2-3 วันก็เป็นหมื่นแล้ว ไหนจะมีค่ารักษา ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าอุปกรณ์พิเศษ ที่ต้องจ่ายอีก

ช่วยแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาล

ส่วนใหญ่แล้ว ประกันสุขภาพสำหรับเด็กในปัจจุบันนี้ มักจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าดูแลรักษายามพักฟื้น ฯลฯ แบบไม่จำกัดวงเงินต่อปี ซึ่งถือว่าครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า หากลูกน้อยของคุณมีอาการป่วย หรือเป็นโรคในเด็กเล็กขึ้นมา ก็จะได้รับการรักษาอย่างเต็มที่และช่วยแบ่งเบาภาระให้กับคุณได้อย่างแน่นอน

คุ้มครองโรคได้หลากหลาย

ความคุ้มครองของประกันแต่ละบริษัทมีความแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะให้ความคุ้มครองกลุ่มโรคร้ายแรงที่มักจะพบในเด็กเล็ก 9 โรค ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือ เท้า ปาก โรคตาแดง โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคไข้เลือดออก โรคไข้เดงกี่ โรคชิคุนกุนยา โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และ โรคไข้สมองอักเสบ เป็นต้น ซึ่งบางแผนก็ให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึง 70 โรค

3 เทคนิคเลือกแผนประกันสุขภาพลูกน้อย

ได้ทราบถึงความสำคัญของประกันสุขภาพลูกน้อยกันไปแล้ว สำหรับคนที่เริ่มสนใจอยากซื้อประกันก็อย่าเพิ่งรีบร้อนไป ควรจะศึกษาให้ดีก่อนว่ามีเทคนิคในการเลือกแผนประกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณได้แผนประกันที่คุ้มค่า และครอบคลุมมากที่สุด

รายละเอียดความคุ้มครอง

ต้องพิจารณาให้ดีว่า ให้ความคุ้มครองตั้งแต่อายุเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ครอบคลุมค่ารักษาในส่วนใดบ้าง ภายในวงประกันเท่าไหร่ และมีโรงพยาบาลคู่สัญญาใกล้เคียงหรือไม่ ที่สำคัญคือ ครอบคลุมโรคใดบ้าง

ค่าเบี้ยประกันที่คุ้มค่า

ประกันที่มีความคุ้มครองครอบคลุมทุกอย่างจะมีค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงควรเช็กกำลังทรัพย์ของตนเองก่อน ว่าสามารถจ่ายได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังควรดูข้อมูลประกันหลาย ๆ แผนและนำมาเปรียบเทียบกัน หรือเปรียบเทียบกับบริษัทประกันรายอื่น ๆ เพื่อให้ได้ประกันที่มีคุ้มครองครอบคลุมในราคาเบี้ยประกันที่คุ้มค่า

สิทธิประโยชน์ต่างๆ จากกรมธรรม์

นอกจากดูความคุ้มครองหลักเกี่ยวกับการรักษาทั่วไปแล้ว ยังควรพิจารณาความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ค่าชดเชยในการนอนโรงพยาบาล ค่าทันตกรรม ค่าแพทย์ทางเลือก เป็นต้น

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนก็คงจะเข้าใจความสำคัญของการทำประกันสุขภาพลูกน้อยกันขึ้นมาบ้างแล้ว เรามั่นใจว่า ค่าเบี้ยประกันที่คุณจ่าย คุ้มค่ากว่าการต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองในแต่ละครั้งอย่างแน่นอน นอกจากนี้หากลูกน้อยของคุณเริ่มโตขึ้นจนเข้าสู่วัยรุ่น หรือวัยที่ประกันสุขภาพลูกน้อยไม่คุ้มครองแล้ว ก็สามารถเลือกทำประกันอื่น ๆ แทนได้ เช่น การมีประกันชีวิตที่ควบคู่กันการออมเงิน ทำให้คุณได้ทั้งความครอง และออมเงินไปในขณะเดียวกัน