รวม 5 ที่ท่องเที่ยวเขียวชะอุ่มหน้าฝน สายอนุรักษ์ต้องไม่พลาด
เข้าหน้าฝนแล้วไปเที่ยวไหนดี? สำหรับช่วงหน้าฝนของประเทศไทยหลายคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ คงนึกถึงภาพความเขียวชะอุ่มของป่าเขตร้อนชื้นตามแต่ละภูมิภาคส่วนของไทย ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งธรรมชาติเหล่านี้ ทำให้เป็นเหมือนเป้าหมายที่คนเมืองอย่างพวกเราต้องได้ไปชมด้วยตาตัวเองซักครั้ง ถ้าใครยังไม่มีแหล่งท่องเที่ยในใจละก็ AROUNDBKK ได้รวบรวมมาไว้ในคอนเทนต์ที่แล้วกับ 5 แหล่งธรรมชาติที่ควรไปเที่ยวช่วงหน้าฝน มีที่ไหนบ้างไปดูกัน
5 แหล่งท่องเที่ยวเขียวชะอุ่มช่วงหน้าฝน
1. ทะเลหมอกบนเขาค้อ จ. เพชรบูรณ์
ประเดิมที่แรกไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กับ “เขาค้อ” จังหวัดเพรชบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดฮิตของคนไทย ไม่ว่าจะช่วงเทศกาลไหนก็มีความคึกคักอยู่ตลอดเพราะมีอากาศดีและหนาวเย็นแทบจะทั้งปีไม่เว้นแม้แต่ฤดูร้อน สำหรับบนยอดเขาค้อมีความสูงเหนือน้ำทะเลตั้งแต่ 155 เมตรจนถึงจุดสูงสุดคือ 1,593 เมตร มีอุณหภูมิตลอดทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 21.93 องศาเซลเซียสเท่านั้น ประกอบกับมีฝนตกชุมเกือบทั้งปีทำให้มีทะเลหมอกให้ชมยามเช้าได้แทบทุกวัน มีจุดชมวิวหลายจุดและมีสถานสำคัญ ๆ ให้แวะชมได้ระหว่างทาง ใครที่ยังไม่เคยไปละก็เก็บที่นี่ไว้เป็นตัวเลือกเที่ยวหน้าฝนนี้ได้เลย
2. ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ. ชัยภูมิ
ไปต่อกันที่ภาคอีสานกันบ้าง กับความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียวที่ 1 ปีจะออกดอกให้ได้ชมเพียง 1 ครั้งเท่านั้นและยังเป็นไม้ดอกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกด้วย โดยจะออกดอกให้ได้ชมกันในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมจนถึงสิงหาคม ส่วนลำต้นจะแทงหน่อออกใหม่ในช่วงเดือนมิถุนายน สำหรับอุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดชัยภูมิ มีจุดชมวิวทั้งหมด 4 จุดให้เลือกเดินทางไปชมได้ มีหน้าผาที่มีชื่อเสียงอย่าง “ผาพ่อเมือง” และ “ผาหำหด” มีความสูงจากน้ำทะเลมากกว่า 800 เมตร ซึ่งเป็น 2 จุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเที่ยวที่นี่ ยิ่งหน้าฝนด้วยยิ่งต้องมา!
3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา
ยังคงอยู่ทางภาคอีสานกันต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และเดินทางไม่ยาก เป็นอุทยานที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่มากครอบคลุมมากกว่า 4 จังหวัดทั้ง นครราชสีมา, สระบุรี, ปราจีนบุรี และนครนายก ด้วยความกว้างใหญ่ของเขาใหญ่ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว และที่พักมากเป็นพิเศษ สามารถเลือกรูปแบบการมาเที่ยวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมผจญภัยในป่า ส่องสัตว์ป่ายามค่ำคืน พักผ่อนสบาย ๆ ในที่พักก้ได้บรรยากาศสงบจากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่ไปเที่ยวช่วงหน้าฝนก็จะได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่มีสีเขียวมากเป็นพิเศษ และยังได้สัมผัสสายหมอกยามเช้าพร้อมอากาศบริสุทธิ์
4. แพริมแม่น้ำแคว จ. กาญจนบุรี
พักจากสายแอดเวนเจอร์มาเป็นสายชิวกันบ้าง กับแพริมแม่น้ำแควที่จังหวัดกาญจนบุรี สำหรับริมแม่น้ำที่นี่ก็จะมีที่พักแบบแพริมน้ำอยู่มากมาย และก็มาพร้อมกับกิจกรรมสนุก ๆ ไม่จะเป็นล่องแพตามแม่น้ำ, กิจกรรมล่องแก่ง เป็นต้น สำหรับการมาเที่ยวช่วงหน้าฝนที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ตามแนวเขาที่เขียวขจีมีความชุ่มชื่นเย็นสบาย เหมาะกับการมากพักผ่อนสบาย ๆ นั่งริมน้ำชิว ๆ ไม่ต้องออกลุยที่ไหน
5. ดอยหลวงเชียงดาว จ. เชียงใหม่
สุดท้ายขึ้นเหนือสุดของไทยไปกันที่เชียงใหม่แบบแอดเวนเจอร์กันอีกซักที่กับ “ดอยหลวงเชียงดาว” ที่มีความสูงเหนือน้ำทะเลกว่า 2,275 เมตร สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย โดยที่ดอยเชียงดาวเป็นหนึ่งใน 2 ยอดดอยที่อนุญาตให้ขึ้นไปเที่ยวได้ (อีกแห่งคือ “ดอยกิ่วลม”) ลักษณะยอดดอยจะเป็นภูเขาหินปูนที่เกิดจากการทับถมของตะกอนทะเลทั้งหลาย ในทุก ๆ ปีดอยหลวงเชียงดาวจะมีช่วงเวลาเปิดให้เข้าไปเที่ยวได้ 5 เดือน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนถึง 31 มีนาคม ซึ่งก็จะทันในช่วงต้นฤดูฝนพอดี ใครที่อยากชมวิวทั้งทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ตก และชอบที่จะท่องเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติที่นี่ต้องไม่พลาดโดยเด็ดขาด
เที่ยวหน้าฝนทั้ง 5 แห่งกับมาตรการป้องกันโรคระบาด
การท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน เป็นการเดินทางที่อาจจะแปลกไปจากช่วงฤดูอื่น ๆ ตรงที่อาจจะเจอพายุฝนบางระหว่างเดินทาง ทำให้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะไม่เยอะเท่าช่วงหน้าหนาวหรือท้ายปีที่ถือเป็น High Season ของการท่องเที่ยว ดังนั้นการออกมาเที่ยวในหน้าฝนสิ่งที่จะได้พบก็คือความแออัดในแต่ละสถานที่ที่น้อยกว่าช่วงอื่น ๆ ได้ชมความสวยงามของแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากเป็นพิเศษเพราะต้นไม้ใบหญ้ามีการเติบโตอย่างดีจากฝนที่ตกลงมาทั้งฤดู
สำหรับในปี 2021 นี้ การออกท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ ควรจะต้องมีการป้องกันละรัดกุมมากเป็นพิเศษ เพราะด้วยโรคระบาดของ Covid-19 ที่ให้การใช้ชีวิตแตกต่างไปจากเดิมการท่องเที่ยวก็เช่นกัน สิ่งที่ควรคำนึงก่อนวางแผนเดินทางคือการเฝ้าระวังและค่อยติดตามข่าวสารต่าง ๆ ให้ดี เพราะแต่พื้นที่มีโอกาสเสี่ยงได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรปฎิบัติตามมาตรการป้องกันขั้นพื้นฐานคือการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ ลดการสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ตามทีสาธารณะ ถ้ามีโอกาศควรฉีดวัคซีนป้องกันเอาไว้จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ และยังช่วยให้การเดินทางมีความอุ่นใจได้มากขึ้น