ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์มีอะไรบ้าง? ใครอยากเป๊ะ ต้องรู้!
หนึ่งในเคล็ดลับหน้าเป๊ะสวยของดารา คงจะไม่พ้นการฉีดโบท็อกซ์แน่นอน! เพราะเก็บได้หมดทั้งกรามใหญ่ ๆ ทั้งริ้วรอยตื้นลึก ฉีดแล้วหน้าเรียวสวย ไร้ปัญหารอยยับกวนใจใน 2 สัปดาห์! แต่คุณรู้หรือไม่ว่า… การที่จะให้ผลลัพธ์ออกมาสวยดั่งใจนั้น ทุกคนจะต้องทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีด Botox ที่แพทย์แนะนำไว้ รวมทั้งไม่ควรละเลยข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์ทั้งหลายที่แพทย์ย้ำเตือนด้วย เพราะถ้าคุณไม่ยอมทำตามคำแนะนำของแพทย์ นอกจากผลลัพธ์จะออกมาไม่ดีแล้ว ยังอาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้อีกด้วย
วันนี้ทาง AroundBKK จะชวนคุณมาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง “โบท็อกซ์ (Botox)” ในขั้นตอนของการพักฟื้นและดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ อาทิ ข้อปฏิบัติหลังฉีด Botox มีอะไรบ้าง? ฉีดโบท็อกซ์มีข้อห้ามเยอะไหม? ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์เคร่งครัดมากแค่ไหน? รวมทั้งอธิบายให้คุณทราบว่าโบท็อกซ์อันตรายไหม? ทำไมบางคนฉีดแล้วเห็นผล แต่บางคนฉีดแล้วหน้าเบี้ยวก็มี…
บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับโบท็อกซ์
- ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี? แนะนำ 10 คลินิกฉีดโบท็อกซ์ยอดฮิต!
- ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? จัดเต็มให้เลือกถึง 8 ยี่ห้อด้วยกัน
เช็กลิสต์ 8 ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ควรมองข้าม
ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากการไม่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ คือ อาการบวมช้ำมากและนานกว่าปกติ, บวมแดง, ใบหน้าแข็งตึง ไม่สามารถขยับได้ ดูไร้อารมณ์, เกิดรอยย่นมากกว่าเดิม, หางคิ้วกระดก, มุมปากตกคว่ำ, เจ็บที่ใบหน้าอย่างรุนแรง ฯลฯ เพื่อไม่ให้คุณต้องพบเจอกับผลข้างเคียงอันน่ากลัวเหล่านี้ มาเช็กกันว่าข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ควรมองข้ามมีอะไรบ้าง!?
1. บุคคลที่ไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้
บุคคลที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง, โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ, มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อในการกลืน, มีอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ, มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่, และ มีการติดเชื้อที่ผิวหนังในบริเวณที่จะฉีดโบท็อกซ์ จะไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้
2. บุคคลที่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
บุคคลที่เคยมีประวัติการแพ้โบท็อกซ์ หรือบุคคลบางกลุ่มอย่างคนที่เคยแพ้โบท็อกซ์มาก่อน, คนที่เคยผ่าตัดใบหน้า, คนที่เคยทำหัตถการบนใบหน้ามาแล้ว (ทุกชนิด), คุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร, คุณแม่ตั้งครรภ์, ผู้ที่มีภาวะหนังตาตก, ผู้ที่มีกำหนดผ่าตัด และคนที่ช้ำง่าย จะต้องปรึกษาและแจ้งประวัติการรักษาให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
3. งดสัมผัสใบหน้า 2 สัปดาห์
บริเวณใบหน้าที่เพิ่งได้รับการฉีดโบท็อกซ์มาจะยังไม่เข้าที่ดี ตัวยาอาจจะยังออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ จึงไม่ควรสัมผัส กด หรือนวดคลึงใบหน้าในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อกซ์ หรือจนกว่าผลลัพธ์จะเข้าที่สวยแล้ว
4. งดนอนราบ 3-4 ชั่วโมงแรก
หลังฉีดโบท็อกซ์ใบหน้าของคุณจะบวมขึ้นมา เพื่อให้อาการบวมลดลงอย่างรวดเร็ว และไม่บวมมากเกินไปกว่านี้ งดนอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรก หากคุณต้องการนอนหลับพักผ่อนให้นั่งหลับแทน คล้ายกับคนที่เสริมจมูกมา เพราะถ้าคุณนอนราบ เลือดจะไหลเวียนมาที่ใบหน้า ทำให้อาการบวมเพิ่มขึ้นไม่พอ อาจทำให้โบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปไม่เห็นผลด้วยเช่นกัน เนื่องจากได้รับความร้อนจากเลือดที่ไหลเวียนผ่านใบหน้า
5. หลีกเลี่ยงความร้อนและงดกิจกรรมกลางแจ้ง
ความร้อนจะเข้าไปทำลายประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ให้แย่ลง หากโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปยังไม่ออกฤทธิ์เต็มที่ ตัวยาอาจจะสลายหายไปก่อนก็ได้ ด้วยเหตุนี้ คุณควรงดกิจกรรมและหัตถการที่มีความร้อนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการยิงเลเซอร์, การยกกระชับใบหน้า (RF Hifu ฯลฯ), การเข้าซาวน่า, การตากแดด, การออกกำลังกายกลางแจ้ง และอื่น ๆ เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยที่สุดคือ 48 ชั่วโมงหลังฉีด
6. งดรับประทานอาหารบางชนิด
ช่วงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ร่างกายต้องการการพักฟื้นอย่างเต็มที่ เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายจากการโดนเข็มทิ่มแทงลงไป รวมทั้งอาหารบางชนิด อาจจะไปขัดขวางการทำงานของโบท็อกซ์ได้ แนะนำให้งดอาหารต่อไปนี้ คือ อาหารหมักดอง, อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ, อาหารที่รสจัด, อาหารเผ็ด, อาหารร้อน, หมูกระทะ ชาบู ปิ้งย่าง ฯลฯ
7. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัวและทำให้เลือดสูบฉีดดีขึ้น ส่งผลให้การกระจายตัวของโบท็อกซ์ไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังทำให้ใบหน้าช้ำนานอีกด้วย ส่วนการสูบบุหรี่จะทำให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองช้าลง ทำให้รอยเข็มบนใบหน้าหายช้าได้
8. งดรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด
อาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด จะทำให้อาการบวมช้ำบนผิวหนังของคุณหายช้าลงกว่าเดิมได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันตับปลา, แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส, นาพรอกเซน, ไอบูโพรเฟน หรือยาแก้ปวด เป็นต้น หากคุณมีการใช้ยาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบทานหรือแบบฉีด แนะนำให้สอบถามแพทย์เพื่อความแน่ใจก่อน
โบท็อกซ์อันตรายไหม?
“โบท็อกซ์อันตรายไหม?” เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็อยากรู้ ต้องบอกว่าโบท็อกซ์มีทั้งอันตรายและไม่อันตราย หากคุณฉีดโบท็อกซ์แท้ ตัวยาไม่เสื่อมคุณภาพ ฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญในการปรับรูปหน้า และดูแลตัวเองเป็นอย่างดีก็ไม่อันตราย แต่ถ้าคุณละเลยบางอย่างไป การฉีดโบท็อกซ์อาจกลายเป็นฝันร้ายกับคุณก็ได้ โดยเฉพาะกับการฉีดโบท็อกซ์ราคาถูก ที่คลินิกไม่ได้มาตรฐาน และเป็นตัวยาปลอม
- การฉีดโบท็อกซ์ปลอม ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ในระดับที่รุนแรงได้ ซึ่งอาจทำให้คุณเสียโฉมได้ในที่สุด
- การฉีดโบท็อกซ์แท้ แต่ตัวยาไม่มีคุณภาพ อาจจะเนื่องมาจากการใช้ยาหมดอายุ เก็บรักษายาไม่ดี อาจทำให้ไม่เห็นผลได้ เหมือนกับคุณเสียเงินไปฟรี ๆ
- การฉีดโบท็อกซ์แท้ แต่คลินิกใช้เข็มซ้ำ ไม่มีการเปลี่ยนเข็ม อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เป็นแผลเน่า และใบหน้าเสียโฉมได้
- การฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ที่ไม่ได้ชำนาญ อาจทำให้ใบหน้าเบี้ยว หนังตาตก หรือชั้นตาไม่เท่ากันได้
- การไม่ทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีด Botox หรือการฝ่าฝืนข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์ จะทำให้โบท็อกซ์แสดงผลลัพธ์ออกมาไม่เต็มที่ เห็นผลน้อย เห็นผลช้า สลายไว หรืออาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมากกว่าเคสปกติทั่วไปได้
สรุปเรื่องข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์
ทุกการรักษา ทุกหัตถการ ทุกอย่างที่เป็นการฉีดลงไปที่ผิวหนังของคุณย่อมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและการกระทำของคุณเป็นหลัก การฉีดโบท็อกซ์ก็เช่นเดียวกัน หากคุณไม่สามารถเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนฉีดโบท็อกซ์, ไม่สามารถทำตามข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์ หรือไม่สามารถดูแลตัวเองได้ แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณเลื่อนการฉีดโบท็อกซ์ออกไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้น ผลลัพธ์ที่ได้ จะใช่เวอร์ชันที่ดีที่สุดนั่นเอง
ทั้งนี้ การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์และทำตามข้อปฏิบัติต่าง ๆ มักจะเคร่งครัดเพียง 2 สัปดาห์ – 1 เดือนแรกเท่านั้น ถ้าอยากสวยเป๊ะ หน้าเรียวกระชับ และกลับไปหน้าเด็กอีกครั้งนานหลายเดือน ขอแนะนำให้ “อดทน” แล้วคุณจะผ่านมันไปได้! ทาง AroundBKK ขอเป็นหนึ่งในแรงใจ ผลักดันให้คุณสามารถทำตามคำแนะนำของแพทย์ และได้รับผลลัพธ์ที่สวยอย่างที่ใจต้องการ!