รวม 8 อันดับโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ปลอดภัย และเห็นผลจริง?
ใครอยากหน้าตึงเป๊ะ แถมเรียวได้ใจ มองมุมไหนก็เป๊ะปัง ต้องไปฉีดโบท็อกซ์กันด่วน ๆ เพราะราคาไม่แพง เห็นผลนานหลายเดือน และถ้าคุณฉีดอย่างต่อเนื่องล่ะก็ ใบหน้าของคุณก็จะยังดูเด็กอยู่ ถึงแม้กว่าคุณจะอายุมากขึ้นก็ตาม บอกเลยว่าเริ่ดสุด ๆ และด้วยเหตุผลนี้นี่เอง ทำให้ใคร ๆ ต่างก็ชอบการฉีดโบท็อกซ์เป็นที่สุด
หากถามว่าโบท็อกซ์มีกี่ยี่ห้อ เพราะเห็นมีให้เลือกฉีดเต็มไปหมด ทำให้ไม่รู้ว่าจะเลือกโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ตามจริงแล้วยี่ห้อโบท็อกซ์มีเยอะมาก ๆ เกินสิบยี่ห้อ แต่ยี่ห้อที่ผ่านอย. ไทย ฉบับอัปเดตใหม่ล่าสุดปี 2023 นี้ มีอยู่ 8 ยี่ห้อ และในวันนี้ AroundBKK จะมาเปรียบเทียบยี่ห้อโบท็อกซ์ให้ชมกันกัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าจาก โบท็อกซ์ทั้ง 8 ยี่ห้อนี้ โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีและเหมาะกับคุณที่สุด
- โบท็อกซ์อเมริกา Allergan
- โบท็อกซ์เกาหลี Aestox
- โบท็อกซ์เกาหลี Nabota
- โบท็อกซ์เยอรมัน Xeomin
- โบท็อกซ์เกาหลี Clodew
- โบท็อกซ์อังกฤษ Dysport
- โบท็อกซ์เกาหลี Hugel
- โบท็อกซ์ฮ่องกง BTXA
อ่านเลย! ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี? มัดรวม 10 คลินิกฉีดโบท็อกสุดปังใน 2023 ไว้ในบทความนี้
เปรียบเทียบ 8 ยี่ห้อโบท็อกซ์กันชัด ๆ เลือกยี่ห้อไหนดีนะ?
จัดเต็ม! เปรียบเทียบยี่ห้อโบท็อกซ์ให้ดูกันชัด ๆ ทั้ง 8 อันดับโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2023 และแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เห็นผลนานแค่ไหน เป็นสัญชาติอะไร ใช้เทคโนโลยีอะไร บริสุทธิ์กี่เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ และจากที่เราได้บอกไปว่าโบท็อกซ์ทุกยี่ห้อที่เราได้นำมาแนะนำนั้นปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกยี่ห้อล้วนผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทยมาแล้วนั่นเอง
1. Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา)
Allergan เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์อเมริกาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ผลิตโดยบริษัทยาที่มีชื่อเสียงอย่าง Allergan บริษัทเดียวกันกับฟิลเลอร์ Juvederm และ Coolsculpting เทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็น สารที่ใช้ในโบท็อกซ์ Allergan คือ Onabotulinumtoxin A มีความบริสุทธิ์ 99.5% ตัวยากระจายตัวได้ดี มีความแม่นยำ สามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน และมีโอกาสดื้อโบน้อย
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 50 ยูนิต และ 100 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : การฉีดลดเลือนริ้วรอย, ฉีดกรามปรับรูปหน้า, ฉีดยกกระชับบริเวณเหนียงและลำคอ, ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ลดเหงื่อ และฉีดเฉพาะจุดอื่น ๆ
2. Aestox (โบท็อกซ์เกาหลี)
Aestox โบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างมากตัวหนึ่ง ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท Aestec Pharma จำกัด มีความบริสุทธิ์ 99.5% ออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลไว อยู่ได้นาน 4-6 เดือน และมีโอกาสดื้อยาน้อยมาก
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 50 ยูนิต, 100 ยูนิต และ 200 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : ฉีดกราม ปรับหน้าเรียว, ฉีดลดเลือนริ้วรอย, ฉีดยกกระชับกรอบหน้า และฉีดเฉพาะจุด
3. Nabota (โบท็อกซ์เกาหลี)
Nabota เป็นหนึ่งในยี่ห้อโบท็อกซ์เกาหลีที่เราคุ้นชื่อคุ้นเสียงมานาน เพราะมีราคาย่อมเยา ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical จำกัด ใช้เทคโนโลยี Hi-Pure ที่มีคุณสมบัติทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% เกิดโอกาสในการดื้อยาน้อย ให้ผลลัพธ์นาน 4-5 เดือน นอกจากนี้ ยังเป็นยี่ห้อโบท็อกซ์ยี่ห้อเดียว ที่ได้รับการรับรองจาก US FDA อีกด้วย
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 100 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : ฉีดริ้วรอย, ฉีดปรับรูปหน้า, ฉีดลดกราม, ฉีดเฉพาะจุด และคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน
4. Xeomin (โบท็อกซ์เยอรมัน)
Xeomin เป็นโบท็อกซต์จากประเทศเยอรมัน มีคุณสมบัติต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างโบท็อกซ์อเมริกาและโบท็อกซ์อังกฤษ ใช้สาร Incobotulinumtoxin A ที่มีความบริสุทธิ์สูง มีโอกาสดื้อยาน้อย ตัวยามีประสิทธิภาพในการหยุดการทำงานของระบบประสาทได้ดี ถึงแม้จะมีขนาดของโมเลกุลที่เล็กกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ก็ตาม เมื่อฉีดแล้วจะเห็นผลประมาณ 4-6 เดือน โดยไม่ทำให้รู้สึกว่าตึงจนเกินไป
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 50 ยูนิต และ 100 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอย, ฉีดลดกราม หรือฉีดกล้ามเนื้อน่องและแขน
5. Clodew (โบท็อกซ์เกาหลี)
Clodew เป็นโบท็อกซ์เกาหลี ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical จำกัด (เหมือน Nabota) ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hi-Pure ทำให้ตัวโบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง มักจะเห็นผลภายใน 5 วันหลังฉีด โดดเด่นเรื่องการฉีดเพื่อยกกระชับใบหน้าให้ดูเรียวสวย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 100 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : ฉีดลิฟต์กรอบหน้าให้เรียว, ฉีดลดกราม และฉีดลดเลือกริ้วรอย
6. Dysport (โบท็อกซ์อังกฤษ)
Dysport ผลิตโดยบริษัท Ipsen Biopharm Ltd จากประเทศอังกฤษ นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Galderma ใช้สาร Abobotulinumtoxin A ที่มีโมเลกุลเล็กและสามารถกระจายตัวยาได้กว้าง มีความบริสุทธิ์สูง เห็นผล 4-6 เดือน และไม่ทำให้หน้าดูแข็งตึง
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 300 ยูนิต และ 500 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : ฉีดริ้วรอยระหว่างคิ้ว, ฉีดยกกระชับหน้า และฉีดเฉพาะจุด (ฝ่ามือ น่อง แขน รักแร้)
7. Hugel (โบท็อกซ์เกาหลี)
Hugel โบท็อกซ์เกาหลีที่ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc (บริษัทเดียวกันกับโบท็อกซ์ Aestox) แต่โบท็อกซ์ Hugel จะเป็นตัวพรีเมียม ที่เห็นผลได้ดีที่สุดในบรรดาโบท็อกซ์จากเกาหลีทั้งหมด ซึ่งโบท็อกซ์ Hugel มีความบริสุทธิ์ถึง 99.51% ทำให้ออกฤทธ์ไว ฉีดไป 2-3 ก็เริ่มเห็นผลแล้ว และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 50 ยูนิต และ 200 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : ฉีดลดน่อง, ฉีดลดแขน, ฉีดรักแร้ลดเหงื่อ, ฉีดลดริ้วรอย, ฉีดปรับรูปหน้า
8. BTXA (โบท็อกซ์ฮ่องกง)
BTXA เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์จากฮ่องกง ที่ผลิตโดยบริษัท Lanzhou Biotechnique Development มีความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์ 99.5% ให้ผลลัพธ์นานกว่า 6 เดือน ยี่ห้อนี้ได้รับความนิยมสูงมากในประเทศแถบเอเชียและอเมริกาใต้
- ขนาดที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย : 100 ยูนิต
- เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอย ฉีดลดกล้ามเนื้อกราม และฉีดลิฟต์กรอบหน้า
สรุปจาก 8 อันดับ โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2023
ความแตกต่างของผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบท็อกซ์ จะมีทั้งในส่วนของการผลิตอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ กรรมวิธี ความบริสุทธิ์ของสาร ขนาดของโมเลกุล และในส่วนของกระบวนการก่อนฉีดเข้าไปที่ร่างกาย อาทิ การขนส่ง หรือการเก็บรักษา ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อระยะเวลาทั้งสิ้น นอกจากนี้ ก็จะเป็นเรื่องของการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลด้วย
หากจะให้สรุปว่าโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2023 จากการเปรียบเทียบยี่ห้อโบท็อกซ์ทั้ง 8 ยี่ห้อในบทความนี้ AroundBKK มองเห็นว่าจะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ ทุกยี่ห้อฉีดแล้วเห็นผลแน่นอน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี เราอยากให้คุณมองในเรื่องของปัจจัยด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น คลินิกฉีดโบท็อกซ์ได้มาตรฐานไหม? แพทย์เชี่ยวชาญไหม? ราคาอยู่ในระดับที่คุณโอเคหรือเปล่า? การให้บริการจากคลินิก ฯลฯ จึงจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์และประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไป