จัดห้องแบบไหนดี จัดอย่างไรให้น่าอยู่

ไม่ว่าคุณกำลังจะจัดระเบียบห้องขนาดเล็กหรือใหญ่ ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน วิธีการที่เรากำลังจะแนะนำสามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งสิ้น การจัดหรือการตกแต่งห้องนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ส่วนใหญ่มักจะมีหลักการที่คล้าย ๆ กัน เราจะมาแนะนำวิธีการจัดห้องง่าย ๆ มาฝากกัน จัดอย่างไรให้น่าอยู่ ดูดีมีสไตล์ พร้อมตอบโจทย์ในการใช้ชีวิต ทุกกิจกรรมในแบบที่ตัวเองชอบ ซึ่งมีหลักการง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้

จัดห้องแบบไหนดี จัดอย่างไรให้อยู่อย่างมีความสุข

นอกจากเรื่องความสวยงาม ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังต้องตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันของเราด้วย หรืออาจตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรามักทำอะไรในห้องนั้นเป็นประจำ หรือต้องการจัดห้องเอาไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร จะทำให้ดูมีเป้าหมายในการจัดและตอบโจทย์ในการใช้งานห้องนั้น ๆ ด้วย

1. จัดระเบียบสิ่งของภายในห้องก่อน

เริ่มแรกคือการจัดระเบียบสิ่งต่าง ๆ ภายในห้องด้วยการกำจัดสิ่งของที่ไม่ใช้หรือไม่มีความจำเป็นออกไป อาจจัดเรียงลงกล่องหรือจัดเรียงตามชั้นให้ดูเรียบร้อย สิ่งที่ยังใช้งานอยู่เป็นประจำ ก็ควรจัดเก็บให้สามารถหยิบจับใช้งานได้สะดวก ดูเป็นระเบียบและง่ายต่อการทำความสะอาดด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องหรือพื้นที่ตกแต่งอะไรใหม่ ๆ ได้นั่นเอง

2. ทำความสะอาด

เมื่อทำการจัดระเบียบ เคลียร์ขยะ หรือของที่ไม่จำเป็นออกไปแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ การทำความสะอาด โดยเริ่มจากเพดาน หรือชั้นที่สูง ๆ ก่อน ค่อย ๆ ไล่ลงมาเป็นระดับจนไปถึงการทำความสะอาดพื้น ระหว่างการทำความสะอาดควรใส่แมสก์เอาไว้ เพื่อป้องกันพวกฝุ่นละอองขนาดเล็กด้วย และหากมีการเลี้ยงสัตว์ที่มีขน ก็อาจจะต้องทำความสะอาดบ่อยยิ่งขึ้น เพราะขนสัตว์ที่หลุดร่วงอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้เกิดปริมาณฝุ่นสะสมได้เร็วยิ่งขึ้น

3. อากาศถ่ายเทสะดวก

อากาศถ่ายเทได้สะดวก ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ไม่ควรตั้งเฟอร์นิเจอร์บดบังทางลม หรือหน้าต่าง บางครั้งอาจมีการใช้เครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องทำความชื้นควบคู่ไปด้วยได้ หากต้องการให้ห้องมีอากาศที่ถ่ายเทสะดวกมากยิ่งขึ้น หรือในกรณีที่ไม่มีหน้าต่างหรือช่องทางลมเลย อาจเลือกใช้สเปรย์ปรับอากาศ ก้านไม้หอม หรือเทียนหอม เพื่อสร้างบรรยากาศดี ๆ ให้กับห้องไปพร้อม ๆ กันก็ได้เช่นกัน

4. แสงสว่างภายในห้อง

แสงสว่างหรือแสงจากธรรมชาติถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก หากรู้สึกว่าแสงสว่างภายในห้องไม่เพียงพอ อาจต้องทำการติดไฟเพิ่ม หรือบางครั้งอาจต้องเลือกแสงไฟให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของห้องนั้น ๆ เช่น ห้องนอนที่ไม่ต้องการแสงเข้ามากเกินไปอาจต้องหาผ้าม่านกันแสงมาติด หรือห้องสำหรับอ่านหนังสือที่แสงเข้าไม่พอ ก็ต้องติดหลอดไฟที่ให้แสงเหมาะกับการอ่านหนังสือ เป็นต้น

5. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น

ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานห้องนั้น ๆ หรือหากในห้องมีพื้นที่น้อย ก็ควรเลือกแค่เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นจริง ๆ เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ ห้องดูไม่แออัดเกินไป และยิ่งมีน้อยชิ้นก็ยิ่งง่ายต่อการทำความสะอาดอีกด้วย หรือการกำหนดสไตล์ของห้อง ก็ทำให้สามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายขึ้น เช่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้ห้องดูอบอุ่นมากขึ้น หรือการคุมโทนโดยใช้เฟอร์นิเจอร์สีขาว จะช่วยทำให้ห้องดูสว่าง กว้าง สบายตาได้

6. สร้างบรรยากาศด้วยเทียนหอม

นอกจากแสงสว่างของเทียนจะทำให้บรรยากาศของห้องดูอบอุ่นขึ้นแล้ว กลิ่นหอมยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดในการใช้ชีวิตแต่ละวันได้ดีอีกด้วย และการเลือกใช้เทียนหอม ก็ควรเลือกให้เข้ากับขนาดและจุดประสงค์ของห้องนั้น ๆ ด้วย เพราะมิเช่นนั้นอาจทำให้การสร้างบรรยากาศที่ดีกลายเป็นทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และไม่มีความสุขกับการทำกิจกรรมในห้องนั้น ๆ แทนได้

7. ตกแต่งห้องด้วยต้นไม้

การตกแต่งห้องด้วยต้นไม้ก็เป็นอีกวิธีที่หลายคนนำไปใช้ ซึ่งเราได้เคยแนะนำไปแล้วไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ปลูกในบ้าน และต้นไม้ฟอกอากาศ ที่นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ยังดูแลง่ายอีกด้วย ต้นไม้สามารถทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวา ดูสดชื่น แต่เราก็ควรเลือกต้นไม้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในห้อง เช่น มีแสงเข้าตลอดวันหรือไม่ หรือห้องทึบไม่ค่อยมีแสงธรรมชาติเข้ามา หรือเลือกปลูกต้นไม้ที่สามารถฟอกอากาศ ช่วยดูดซับสารพิษในอากาศได้ ก็ถือว่าได้ประโยชน์ที่มากกว่าความสวยงามอีกด้วย

โทนสีกับการจัดห้อง

• โทนสีน้ำตาล หรือ การใช้โทนสีน้ำตาลจะทำให้รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย อย่างการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ ก็จะช่วยให้ดูอบอุ่น เป็นกันเองมากขึ้น
• โทนสีเขียว ถือเป็นสีของธรรมชาติ ความสดชื่น ร่มรื่น สบายตา เป็นสีที่ช่วยให้ระบบประสาทตารู้สึกผ่อนคลายด้วย
• โทนสีเหลือง จะให้ความรู้สึกถึงพลังงาน ความสนุกสนานร่าเริง กระตุ้นการทำงานของสมองได้ดี กระตุ้นให้รู้สึกมีชีวิตชีวาได้ด้วย
• โทนสีน้ำเงิน หรือสีกรม ในโทนสีนี้จะให้ความรู้สึก สุขุม นิ่งสงบ ปลอดภัย และยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ด้วย

หลังจากที่ได้จัดห้องเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมที่จะรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอด้วย อาจใช้เวลาอย่างน้อยวันละ 5-10 นาทีก่อนนอน หรือหลังจากเสร็จกิจกรรมในแต่ละวันแล้ว เพื่อจัดระเบียบห้องหรือทำความสะอาด ไม่ให้เกิดการสะสมของฝุ่นจนอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้ และควรทำความสะอาดและกำจัดกลิ่นทุกครั้งเมื่อมีการนำอาหารเข้าไปรับประทานภายในห้องด้วย เพื่อป้องกันแมลงกวนใจภายในห้องของเรา