1. หน้าหลัก AroundBKK
  2. / บทความ
  3. / GADGETS & LIFESTYLE
  4. / ข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่คุณควรรู้! ก่อนซื้อมาใช้งาน

ข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่คุณควรรู้! ก่อนซื้อมาใช้งาน

Published on พฤศจิกายน 28, 2023
SHARE
ข้อดี ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้า หรือที่เรียกกันติดปากว่ารถ EV (Electric Vehicle) คือ รถยนต์ที่ถูกขับเคลื่อนโดยพลังงานไฟฟ้า ไม่ใช่การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเหมือนรถยนต์ทั่ว ๆ ไป ซึ่งจะเป็นการสำรองพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ หากพลังงานหมดก็สามารถชาร์จเพื่อเติมพลังงานได้โดยง่าย ด้วยเหตุนี้รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของผู้ใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน

แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าทุกอย่างย่อมมีข้อดี-ข้อเสียของมัน รถยนต์ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น ในบทความนี้ทาง AroundBKK จะมาเปิดข้อดี ข้อเสีย ของรถยนต์ไฟฟ้าให้คุณทราบกันก่อนใช้งาน เพื่อให้คุณได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจจองรถนั่นเอง!
บทความแนะนำ : 10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าตัวท็อปของปี 2024

ข้อดี ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง?

1. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก ทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ค่าซ่อมบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายในระยะยาวด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อดีรถยนต์ไฟฟ้าข้อนี้เองที่ทำให้ใครต่อใครหันมาใช้งาน โดยเฉพาะกับผู้ที่มีรายได้ในระดับปานกลาง

จากปัญหาเรื่องราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นที่เราเห็นได้ทุกวันนี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางของผู้ใช้รถยนต์สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกันล่ะก็จะพบว่าค่าพลังงานไฟฟ้าของรถ EV นั้นถูกกว่ามาก ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 56-60 บาทต่อการวิ่ง 100 กิโลเมตร ส่วนค่าน้ำมันรถจะพุ่งสูงไปถึง 360 บาทโดยประมาณ (อ้างอิงจากราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566)

2. ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม

ข้อดีรถ EV ที่ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนตัดสินใจซื้อรถ EV มาใช้งาน คือ ไม่ทำลายโลกและสิ่งแวดล้อม เหมือนอย่างที่รถยนต์ปกติทำ เนื่องจากรถยนต์ปกตินั้นจะมีการปล่อยควันไอเสียออกมาจำนวนมาก แม้จะมองไม่เห็นแต่กลับสร้างมลพิษทางอากาศได้มหาศาล เพราะประกอบไปด้วยก๊าซอันตรายมากมาย อาทิ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO), คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx), ไนตริคออกไซด์ (NO), ไฮโดรคาร์บอน (HC), ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และอื่น ๆ อีกสารพัด

เมื่อคุณสูดดมควันรถเข้าไปในปริมาณมาก จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของคุณในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ แสบจมูก, เวียนศีรษะ, ไอ, จาม, คลื่นไส้ อาเจียน, เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และอาจจะนำไปสู่โรคมะเร็งปอดได้ในที่สุด นอกจากนี้แล้ว ยังทำให้อุณหภูมิของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง และทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้

แต่ “ปัญหาเหล่านี้จะลดน้อยลงเมื่อคุณเลือกใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า” เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีปริมาณการปล่อยก๊าซพิษต่าง ๆ ในปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไปนั่นเอง 

3. ไม่สร้างมลพิษทางเสียง

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานไฟฟ้าของแบตเตอรี่ที่อยู่ในมอเตอร์ ไม่มีการใช้เครื่องยนต์ จึงทำให้เกิดเสียงน้อยมากในระหว่างการทำงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการสตาร์ทรถ ขับเคลื่อน ไปจนถึงการหยุดใช้งานเลย อีกทั้งยังไม่มีการทดเกียร์อีกด้วย แม้จะเพิ่มอัตราเร่งก็ไม่ได้ส่งผลทำให้เสียงของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเพิ่มขึ้น จนหนวกหูเหมือนรถยนต์ทั่ว ๆ ไป เหมาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนขนาดเล็ก หมู่บ้านไม่ใหญ่ หรือบ้านที่มีผู้สูงอายุนอนเร็ว แต่ผู้ขับขี่ชอบขับรถในตอนกลางคืนเป็นอย่างยิ่ง

4. เติมพลังงานได้จากที่บ้าน

ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดายขึ้น ด้วยการหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ทั่วไป เพราะคุณสามารถเติมพลังงานไฟฟ้าได้จากที่บ้านของคุณเอง ในตอนกลางคืนก่อนนอน และตื่นขึ้นมาเจอกับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็ม ๆ ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเฟ้นหาปั๊มน้ำมันใกล้บ้าน ไม่ต้องขับรถไปเติมน้ำมันที่ปั๊มไกล ๆ และไม่ต้องเครียดเมื่อพรุ่งนี้จะออกทริป แต่วันนี้ดันลืมเติมน้ำมัน! 

ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของรถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว แนะนำให้ชาร์จพลังงานจากสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลักจะเป็นการดีที่สุด หากฉุกเฉินจริง ๆ ก็สามารถชาร์จพลังงานจากปลั๊กไฟธรรมดาได้ด้วยเช่นกัน

5. รัฐบาลให้การสนับสนุน

รัฐบาลของประเทศไทยและรัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา เยอรมัน อังกฤษ จีน หรือนอร์เวย์ ได้มีผลักดันนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม จึงให้การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV ด้วย ทำให้มีการออกมาตรฐานสนับสนุนมากมายหลายรูปแบบ โดยขึ้นอยู่กับรัฐบาลของแต่ละประเทศ อาทิ สิทธิพิเศษเรื่องภาษี, ส่วนลดในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และอื่น ๆ

ข้อดีรถยนต์ไฟฟ้า

ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณต้องรู้!

1. ตัวรถมีราคาค่อนข้างสูง

รถยนต์ไฟฟ้าถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่และมีข้อดีมากกว่ารถยนต์ปกติอยู่หลายด้าน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงมีราคาค่อนข้างสูง หากคุณมีงบประมาณเพียง 1 ล้านบาท คุณมีตัวเลือกในการซื้อรถยนต์ปกติหลายสิบคัน แต่ในทางกลับกันหากคุณมีงบ 1 ล้านบาทในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า คุณจะมีตัวเลือกเพียงไม่กี่คันไม่กี่รุ่นเท่านั้น

2. ไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกล

รถยนต์ไฟฟ้าไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกล เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องความจุของแบตเตอรี่ โดยส่วนใหญ่แล้วสามารถวิ่งได้ไม่เกิน 200 กิโลเมตร หรืออย่างมากประมาณ 300 กิโลเมตร จึงไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกล หรือการเดินทางไกลติดต่อกันหลายวัน

3. สถานีชาร์จพลังงานยังไม่ครอบคลุม

สถานีชาร์จพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศขนาดนั้น มีเพียงแค่บางพื้นที่เท่านั้น หากคุณต้องเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดด้ยรถยนต์ไฟฟ้า EV อาจลำบากได้ ไม่เพียงเท่านั้น การชาร์จพลังงานแต่ละครั้งยังใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีอีกด้วย ไม่เหมือนการเติมน้ำมันปกติที่ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

4. อู่ซ่อมรถ EV โดยเฉพาะมีน้อย

รถยนต์ไฟฟ้ายังถือว่าเป็นสิ่งใหม่ในประเทศไทยอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีคนใช้งานเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่อัตราส่วนที่เทียบกับรถยนต์ปกตินั้นยังน้อยอยู่มาก ด้วยเหตุนี้หากรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายขึ้น อาจทำให้หาอู่ซ่อมยากเสียหน่อย เนื่องจากในปัจุบันนี้มีอู่ซ่อมรถยนต์ EV เฉพาะทาง หรือร้านที่ให้บริการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าอยู่น้อยมาก หากต้องการซ่อมแซมรถ EV ล่ะก็ คุณอาจต้องเดินหน้าเข้าศูนย์บริการไปก่อน เว้นเสียแต่ว่าส่วนที่เสียหายเป็นล้อ ยาง หรือส่วนที่สามารถหาอะไหล่มาเปลี่ยนได้ง่าย ๆ 

5. เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง ๆ 

ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน เรื่องพื้นที่การใช้สอยของที่พักเป็นสิ่งที่คุณต้องพิจารณาก่อน เพราะข้อเสียรถ EV ข้อนี้ ทำให้หลาย ๆ คนตัดใจไม่ซื้อรถ EV มาใช้งานไปแล้ว

หากคุณซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน คุณจำเป็นที่จะต้องติดตั้งมิเตอร์แบบ TOU เพื่อใช้ในการชาร์จพลังงานของรถที่บ้านด้วย หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่มีพื้นที่เพียงพอ อาศัยอยู่ในหอพักหรือคอนโดที่ลานจอดรถเป็นพื้นที่ส่วนกลาง อาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการติดตั้งมิเตอร์ดังกล่าวได้

ข้อเสียรถยนต์ไฟฟ้า

สรุปข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า EV

ทั้งหมดนี้ก็คือข้อดี ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เรา AroundBKK ได้รวบรวมมาให้ สามารถสรุปข้อดีรถยนต์ไฟฟ้าได้ว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว, ช่วยลดค่าพลังงานได้, ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม, ไม่มีเสียงดังหนวกหู, เติมพลังงานได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนข้อเสียรถไฟฟ้าคือราคาสูง, ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล, จุดชาร์จพลังงานน้อย, หาอู่ซ่อมรถยาก และเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ในการติดตั้งมิเตอร์ TOU นั่นเอง

บทความที่เราอยากแนะนำ

Related Blog

ชี้เป้า 5 เคสแบบตั้งได้ (Kickstand) เพิ่มความสะดวกให้ชีวิต

GADGETS & LIFESTYLE

5 เครื่องดูดฝุ่นเสียงเบา ยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2024

GADGETS & LIFESTYLE

รวม 10 คอมมูนิตี้มอลล์ ใกล้รถไฟฟ้า เดินชิล ๆ หลังเลิกงาน

GADGETS & LIFESTYLE